หน้าเว็บ

วันเสาร์, ธันวาคม 17, 2559

5วิธีทำงานวาดภาพประกอบฟรีแลนซ์อย่างมีประสิทธิภาพ

วันนี้เรามาดูทิปสั้นๆในการทำให้งานวาดภาพประกอบฟรีแลนซ์ของคุณมีประสิทธิภาพขึ้นนะคะ

  1. ก่อนอื่นคุณต้องมีสมาร์ทโฟน ดีๆซักเครื่อง ซึ่งสมัยนี้ราคาไม่แพงมาก คุณต้องเอาไว้ใช้ติดต่องาน ซึ่งสมาร์ทโฟนทำได้ทั้งรับส่งอีเมล์ติดต่อลูกค้าทาง LINE ส่งงานให้ลูกค้า ติดต่อและ คอนเน็คชั่นส์กันผ่านโซเชียล และอีกมากมาย รวมถึง ใช้ทำงาน บางอย่างได้เหมือนคอมพิวเตอร์ เลยทีเดียว
  2.  มีเว็บของตัวเอง คุณจะได้ใส่ portfolio ลงไปในนั้น เมื่อ คุณ ใส่งานลงไปใน portfolio จะทำให้ลูกค้าค้นหาเจอ และเมื่อลูกค้าถูกใจงานคุณก็จะจ้างคุณในที่สุด นอกจากนี้ เว็บของคุณยังติดผลการค้นหาใน Google ถ้าคุณเขียนบทความอย่างสม่ำเสมออีกด้วย และลูกค้าบางส่วนจะมาจากการค้นหา ซึ่งคุณควร ปรับแต่งเว็บให้เข้ากับการค้นหาของ Google โดยการปรับแต่ง seo (search engine optimization)
  3. คุณควรมี Dropbox หรือ google drive เอาไว้ sync file จากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณมายังมือถือโดยใช้ cloud หรือเราไม่จำเป็นต้องแบก hard disk ไปตลอด เวลาจะส่งงานลูกค้าก็เอาลิงค์ไฟล์ให้เลย สะดวกดีมาก ค่ะ
  4. คุณควรมีแทบเลทหรือเมาส์ปากกาดีๆสักอันสมัยนี้ก็มีหลายคนใช้ iPad Pro เป็นเครื่องมือหลักในการวาดรูป เพราะว่าสะดวกพกพาไปไหนมาไหนได้ นอกจากนี้ทำงานใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์อีกด้วย โดย app procreate,paint storm แถมยังใช้งานง่ายกว่า Photoshop และเรียนรู้ได้ง่ายด้วย เวลาเลือกอาจไม่ต้องเลือกรุ่นที่ความจุสูงสุดควรเลือกรุ่นความจุกลางๆอย่าเลือกรุ่นเล็ก
  5. คุณควรลงทุนในอุปกรณ์ดีๆ ไปทีเดียวเลยดีกว่าซื้ออุปกรณ์ราคากลางๆหลายๆเครื่อง แล้วเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อย เพราะว่าอุปกรณ์ที่ดีจะไม่เสียเวลาในการซ่อมแก้ปัญหามากมายนัก สำหรับคนทำงานกราฟฟิคเรา ก็ต้องแนะนำ MacBook Pro ถ้าใครทำงานแฮนด์เมดเราก็แนะนำซื้ออุปกรณ์ราคากลางๆเกรดนักเรียนมาฝึกจนเก่งก่อนแล้วค่อยใช้อุปกรณ์ราคาแพงขึ้นค่ะ

เท่านี้การทำงานคุณก็จะมีประสิทธิภาพขึ้นแล้วค่ะ



from WordPress http://ift.tt/2gLg84G
via IFTTT

วันจันทร์, ธันวาคม 12, 2559

9 ปีติดๆกับชีวิตนอกออฟฟิศอันอิสระ

สวัสดีค่ะวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของ การใช้ชีวิตฟรีแลนซ์ของเราต่ออย่างที่หลายๆคนรู้กันว่าเราเป็น ฟรีแลนซ์มาเก้าปีแล้ว ช่วงปีที่ผ่านมาก็มีเรื่องหลายอย่างเกิดขึ้นมีสถาบันเกิดขึ้นมากมาย ทั้งใหญ่ๆ หลายคนคงจะสงสัยว่าทำไมIllustcourse ยังอยู่ได้

สิ่งที่สำคัญในการทำฟรีแลนซ์นั่นก็คือเรื่องของการปรับตัวเราต้องมีการปรับตัวที่ดีต้องดูเทรนด์โลกเป็น การที่เราดูเทรนด์โลกเป็นนั้นจะทำให้เราก้าวล้ำหน้าคนอื่นอยู่เสมอและทำในสิ่งที่ไม่เหมือนกับคนอื่น

ในบางครั้งบางสิ่งที่เราทำอาจจะประสบความสำเร็จหรืออาจจะไม่ประสบความสำเร็จไม่ต้องไปสนใจลองทำไปเรื่อยๆ อันไหนสำเร็จก็พยายามพัฒนาต่อไปอะไรไม่สำเร็จก็พยายามปรับปรุง และพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอด้วยการลงทะเบียนคอร์ส ต่างๆไม่ต้องของที่นี่ก็ได้

การที่เราไม่ติดตามเทรนด์โลกทำให้เราทำในสิ่งที่เหมือนกับคนอื่นเมื่อเหมือนกับคนอื่นเราก็ไม่มีข้อแตกต่างที่ทำให้ลูกค้ารู้ว่าเรานั้นมีความโดดเด่นอย่างไร ทำให้เราเหมือนกับคนทั่วไปหรือ คนธรรมดาซึ่งถามว่าผิดไหมไม่ผิดค่ะถ้าคุณไม่ได้ทำธุรกิจหรือไม่ได้ทำฟรีแลนซ์เพราะว่าไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะโดดเด่นมีชื่อเสียงหรือว่าเป็นที่รู้จักมาก

บางคนก็อยากอยู่แบบธรรมดาอยากมี ชีวิตแบบสงบ ทางนั้นเราจะต้องรู้ว่าเราต้องการอะไรในชีวิต กันแน่ เราถึงจะสามารถกำหนดทิศทางในการ promote หรือว่าทิศทางในการดำเนินธุรกิจของเราหรือว่าแม้กระทั่งเป็นอาร์ติสก็ตามก็ต้องกำหนดทิศทางใดในการ ที่จะวาดภาพแล้วก็พรีเซนต์ตัวเองออกมาอย่างไร

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลเป็นหลักไม่มีอะไรตายตัวแต่เราบอกว่าถ้าหากคุณอยากจะ promote ธุรกิจหรือว่าโปรโมทตัวเองในฐานะอาร์ติสให้ประสบความสำเร็จจะต้องมีความอดทนอย่างมากเพราะมันต้องอาศัยเวลา ไม่ใช่เวลาแค่วันสองวันเราจะได้ในสิ่งที่เราต้องการ แต่ใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปีกว่าจะเห็นผล กว่าเราจะเป็นที่รู้จักของสังคม

บางทีการเป็นที่รู้จักของสังคมก็เป็นดาบสองคมเพราะว่าไม่ใช่ทุกคนที่รักเราและชอบเราป่ะคนก็เกลียดเราบางคนก็ไม่ชอบเรา ฉะนั้นถ้าอยากเป็นที่รู้จักก็ต้องทำใจ และต้องทำใจกับช่วงเวลายากลำบากให้ได้เราเคยไม่มีเงินติดตัวเลยแล้วก็มีแต่หนี้ เราต้องฝ่าฟันไปให้ได้เพราะทุกอย่างไม่เคยราบเรียบและได้อย่างใจเราเสมอในทุกๆคน

การทำฟรีแลนซ์ให้ประสบความสำเร็จรวมไปถึงการเก็บรายชื่อลูกค้าและการ promote อย่างต่อเนื่องทั้งนี้เราไม่อยากให้คุณฮาร์ดเซลล์ หรือขายกันตรงๆ ในครั้งแรกที่คุณ เริ่มธุรกิจหรือว่าในครั้งแรกที่คุณเป็น อาร์ติส คุณควรมุ่งเน้นที่การสร้างประโยชน์และการสร้างผลงานให้เป็นที่รู้จักก่อน เมื่อคุณมีผู้ติดตามระดับหนึ่งแล้ว คุณถึงจะเริ่มขายได้ และควรโฟกัสที่การทำประโยชน์และ promote ให้เป็นที่รู้จักต่อไปก่อนค่ะ

การที่เราอยู่มาได้ถึงเก้าปีโดยที่ไม่มีงานประจำนั้นมันเพราะว่าเรามีความอดทนสูงและเราเชื่อว่าเราทำได้เราไม่ดูถูกตัวเองและไม่เพ้อฝันว่าจะต้องทำงานเบาๆ แล้วได้เงินเยอะๆโดยที่ไม่ทำอะไรเลย แต่ทุกอย่างจะต้องแลกมาด้วยสิ่งที่เท่ากันเสมอถ้าอยากได้เงินเยอะขึ้นก็ต้องทำงานหนักขึ้นยกเว้นแต่ว่าควรจะมีระบบที่ว่าสามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง ที่คุณลงแรงในครั้งเดียว

ทุกวันนี้เราสอนวาดรูปเรามีความสุขดีเรารู้สึกว่ามันเป็นอาชีพที่ใช่แต่ในอนาคตก็ไม่แน่เพราะว่าทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอนค่ะ ไม่แน่เราอาจจะสอนไม่ไหวเพราะฉะนั้นเราต้องมีระบบอะไรรับรอตรงนี้เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทำงานตลอดไปเราเชื่อว่าทำงานหนักแค่ช่วงหนึ่งของชีวิตก็พอค่ะที่เหลือคือ การใช้ชีวิตแต่ เราก็ไม่เชื่อในการเกษียณเร็ว เราเชื่อว่าถ้าคนเรารักในการทำงานจริงๆหรือรักในงานที่ทำจริงๆเราสามารถทำงานต่อไปได้เรื่อยๆจนกว่าจะทำงานไม่ไหว

เราเคยได้ยินหลายคนพูดเยอะการที่อยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไรทำในสิ่งที่ชอบอย่างเดียวชีวิตที่ขาดงานมักจะขาดความหมายไปด้วย เพียงแต่งานนั้นมันต้องเติมเต็ม ในสิ่งที่คุณต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปณิธานในการทำงาน หรือจะเป็นเรื่องของรายได้และอื่นๆ เพราะว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตเราต้องทำงาน  ดังนั้นงานจึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเราเลือกงานผิดหรือใช้ชีวิตแบบที่ไม่เป็นอย่างที่เราต้องการ เราจะกลับลำยากมากเลย

9 ปีนี้เป็น 9 ปีที่เราทดลองอะไรหลายอย่าง และเป็น 9 ปีที่มีทั้งทุกข์ทั้งสุขครบรส และต้องขอบคุณครอบครัวที่อยู่ข้างๆคอยเป็นกำลังใจให้ค่ะ เราทดลองอะไรมากมายเสียเงินไปก็มากมายได้อย่างไรก็มากมาย มันเป็น 9 ปีที่คุ้มมาก เราเคยคิดว่าถ้าย้อนเวลากลับไปเราจะไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้แต่เราคิดว่าทางเดินที่เราเลือกตอนนี้เป็นทางเลือกที่ดีแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี

ดังนั้นเราสนับสนุนให้ทุกคนทดลองทำอะไรใหม่ๆทุกวัน มันจะทำให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นและนำมาต่อยอดในสายอาชีพของคุณได้ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินแต่ต้องซื้อด้วยประสบการณ์เท่านั้น และประสบการณ์คือสิ่งมีคุณค่าที่ไม่สามารถเอาอะไรมาแลกได้ เพราะมันจะคงอยู่ติดตัวกับเราตลอดไป

บางคนก็คิดว่าถ้ามีชื่อเสียงโดยก็ดีสิโดยที่ไม่ต้องออกแรงเยอะ เคยได้ยินกฏ action = reaction ไหมคะ สิ่งที่คุณลงแรงไป จะได้ในสิ่งที่เท่ากันกลับคืนมาแต่ถ้าคุณไม่ลงแรงเลยนอนเฉยๆให้เวลาผ่านไปวันๆบอกตรงๆช่วงนี้เราก็เคยผ่านมาแล้ว มันไม่ได้อะไรเลยค่ะเพราะสุดท้ายตายไปคุณก็ต้องนอนอยู่ดี พักผ่อนให้เพียงพอดีกว่า แต่อย่านอนทั้งวัน  ลุกขึ้นมาวาดอะไรสักอย่าง คุณจะพัฒนาขึ้นๆ และพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับวันนี้ก็ขอบคุณที่อ่านค่ะ สวัสดีค่ะ

ถ้าชอบก็แอดเพื่อนมาคุยกันได้ค่ะ หรือกดสมัครรับข่าวสารและ E-book free จะได้รับโพสต์ส่งถึง inbox ทุกวันค่ะ

เพิ่มเพื่อน



from WordPress http://ift.tt/2gQcp71
via IFTTT

ชีวิตแค่โดนทำร้ายแต่ฝีมือมันต้องไม่โดนทำลาย

สวัสดีค่ะสำหรับวันนี้ก็จะมาชวนคุยเรื่องการกลับมา วาดรูปใหม่ของเรา อย่างที่รู้กันว่า ที่ฝีมือของเราตกลงไปเพราะว่าอาการป่วยทำให้มือสั่นแล้ววาดเหมือนเดิมไม่ได้เราไม่เคยคิดว่าอาการนี้มันทำให้เราไม่เหมือนคนอื่นหรือว่า รู้สึกด้อยกับอาการป่วย

แต่เรากลับรู้สึกว่ามันคือบทพิสูจน์อย่างหนึ่งที่พิสูจน์ว่าเราจริงจังกับการ วาดรูปขนาดไหน ที่ผ่านมาเราอาจจะดูเหมือนไม่จริงจังแต่ว่าที่จริงแล้วการที่เป็นครูมันทำให้เราต้อง ฝึกมือ อยู่ตลอดเวลา เพราะว่าถ้าวาดรูปไม่เก่งก็จะไม่น่าเชื่อถือไม่มีใครเชื่อถือ ไม่มีใครอยากมาเรียน เราจึงอยากจะบอกทุกคนว่าอย่าท้อถอยเวลาโชคชะตามาล้อเล่นกับเรา หรือว่าทำให้เราเจ็บปวด ทำให้ เราล้มลงไป

เพราะว่าทุกสิ่งมันไม่จีรัง มีขึ้นก็ต้องมีลง ที่สำคัญคือเราจะทำตัวตนของตนเองกลับมาได้อย่างไร จะทำยังไงทำให้ตัวตนของเราที่หายไปกลับคืนมา  วันนี้เราจึงมาบอกเล่าเรื่องราวว่าเรากลับมาได้อย่างไรกับฝีมือ ที่จริงแล้วหลังจากที่เรากลับมาจากสิงคโปร์เราก็ฝีมือขึ้นๆลงๆแต่ว่าตอนที่ฝีมือดีที่สุดนั้นอยู่ช่วงปี 2008 ถึง 2011 เพราะว่าจิตใจของเราวาดรูปด้วยการอยากเอาชนะ อยากเอาชนะตัวเองอยากเอาชนะผู้อื่น

งานมันก็เลยออกมาไม่เพียวแต่ว่ามี ฝีมือดี อย่างเดียว แต่หลังจากนั้นเราก็ขาด motivation อย่างรุนแรง เราไม่รู้ว่าจะวาดรูปไปทำไมและเพื่ออะไร เพื่อใครซึ่งจริงๆแล้วมันไม่จำเป็นต้องหาคำตอบก็ได้ว่าเราทำเพื่ออะไรเพื่อใครหรืออย่างไรทำไม

เพราะว่ายิ่งเราหาคำตอบเรายิ่งค้นพบว่า สิ่งที่เราทำบางอย่างมันก็อาจจะไม่ต้องมีเหตุผลมารองรับทุกอย่างก็ได้เพราะว่าชีวิตมันมีหลายอย่างมีหลายรสชาติมีเจ็บปวดมีทุกข์มีสุข ยิ่งเราพยายามหาคำตอบให้กับทุกอย่างในโลกใบนี้มันยิ่งทำให้เราทุกข์ เพราะเราจะพบว่าไม่มีสิ่งไหนที่เป็นไป อย่างใจ เราตลอด  

บางอย่างเราก็พบว่ามันเป็นเรื่องที่ทำให้เรายิ่งเจ็บปวดขึ้นไปอีกเช่นการที่รู้ว่ามีคนเก่งกว่าเราเยอะมากมายบนโลกใบนี้และเราไม่มีทางตามทันถ้าเราไม่ฝึกฝนในปริมาณที่ = ที่เค้าฝึก หรือบางอย่างเราก็ต้องยอมรับว่าเราไม่มีทางได้มันและทำใจซะ  

แต่โดยส่วนมาก 99% ของความพยายามของเรามักจะได้ผล ถ้าเราฝึกฝนไปเรื่อยๆ เราก็จะเก่งขึ้นๆทุกวัน การวาดรูปมันก็เหมือนกับการขี่จักรยาน ถ้าขี่จักรยานเป็นแล้วต่อไปจะ ขี่จักรยานอีก ก็ย่อมทำได้ เราจึงอยากบอกคนที่ มือตกตอนนี้ว่าไม่ต้องกังวลไปเพราะว่าฝีมือมันก็เหมือนหุ้นแหละมีขึ้นมีตก ไม่มีอะไรตกตลอดไปและไม่มีอะไรขึ้นตลอดไป เราทำใจกับ ช่วงเวลาที่มือตกและ รักษาช่วงเวลาที่ขึ้นได้หรือไม่

ชีวิตแค่โดนทำร้าย แต่ฝีมือเราไม่ได้โดนทำลายไปด้วยนะคะ  และสิ่งที่คุณเจอจะมากมายขนาดไหน

ก็ย่อมมีคนที่เจอสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าคุณมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นวันนี้ไม่ต้องจิตตกไปเวลามือตกหาอะไรอย่างอื่นทำไปก่อนค่ะ แล้วก็ฝึกมือไปด้วย

เมื่อถึงเวลาของเรา ทุกอย่างก็จะค่อยๆดีขึ้นเองแต่ว่าเราอย่าปล่อยให้อะไรไปตามชะตากรรมของเรา

เราควรจะกุมโชคชะตาของตัวเองด้วยตัวของเราเองและสองมือของเราเอง

ถ้ามือตกเพราะว่าขาดแรงบันดาลใจไม่รู้ว่า จะวาดไปทำไมก่อนอื่นคุณต้องถามตัวเองก่อน

ว่าเราวาดไปทำไมเรามีเหตุผลอะไรเบื้องหลังการวาดรูปของเราเหตุผลนั้นมันจะช่วยซัพพอร์ตให้เราวาดรูปต่อไป คำถามที่คุณควรถามตัวเองมันควรจะเป็นคำถามที่คุณเองตอบได้ ไม่ใช่คำถามที่คุณตอบไม่ได้ เพราะคุณจะเก๊กซิมเปล่าๆ ถ้าพยายามถามคำถามเหล่านั้น

และที่สำคัญจิตใจ จิตใจต้องเข้มแข็ง อย่าหวั่นไหวกับอาการมือตกแล้วก็คิดว่าทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมเราสามารถวาดได้เหมือนเดิม สิ่งที่คุณขาดไปก็คือจิตวิญญาณที่อยู่ในรูปนั่นเองค่ะจึงทำให้มือตก การนำจิตวิญญาณกลับมาในรูปก็คือการทำให้จิตใจเราดีขึ้นนั่นเอง การที่จะทำให้จิตใจเราดีขึ้นก็มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน

และวิธีที่ได้ผลดีวิธีหนึ่งก็คือการหยุดวาดรูปแล้วไปทำอย่างอื่นเลย แล้วค่อยกลับมาวาดรูปใหม่มันจะดีขึ้น และไม่แน่ฝีมืออาจจะดีขึ้นมาอีก

 

การวาดรูปแล้วมือตกนั้นมีทั้งมือตกระยะสั้นและมือตกระยะยาว มือตกระยะยาวอาจจะเป็นปีได้ การที่ทำให้มือตกระยะสั้นกลับมานั้นไม่ค่อยยากเท่าไหร่แค่พักผ่อนนิดหน่อย แล้วค่อยกลับมาวาดรูปใหม่มันก็จะดีขึ้น

ส่วนมือตกระยะยาวการหาอะไรอย่างอื่นทำอาจจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมกว่า สำหรับวันนี้ก็คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครหลายๆคนนะคะที่กำลังมือตกอยู่ สู้ๆค่ะ แนะนำให้อ่านเอนทรี่นี้เพิ่มเติมนะคะ



from WordPress http://ift.tt/2hiVCNl
via IFTTT

วันเสาร์, ธันวาคม 10, 2559

13 วิธีที่ได้ผลในการก้าวข้าม artblock


ไม่ว่าจะเป็น creative คนไหน ก็ต้องมีวันที่ไอเดียหมด และแรงบันดาลใจในการทำงานศิลปะก็น้อยลง 
มันเป็นสิ่งที่ชาวสร้างสรรค์ทุกคนต้องเผชิญ วันนี้เรามาพบคำตอบกับการก้าวข้าม artblock และเราค่อนข้างแน่ใจว่ามันได้ผล 

มีคำพูดหนึ่งได้กล่าวว่าไม่ใช่มีหัวข้อที่วาดไม่ได้หรอกหรือไม่มีหัวข้อจะวาดหรอกแต่แค่ขาดความคิดสร้างสรรค์ 

บางครั้งการหาแรงบันดาลใจนั้นยาก ตอนที่เราป่วยแล้ววาดรูปแย่ลง บางคนอาจจะมองว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายแต่จริงๆแล้วมันเป็นช่วงเวลาที่ดีเพราะมันทำให้เราพัฒนาและก้าวข้ามartblock และเราก็กำลังพยายามอยู่

แนวทางในการก้าวข้าม artblock

เปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน
1.หยุดแล้วก็ช้าลงนิดหนึ่งการรีบและแรงกดดันไม่ได้ทำให้กระบวนการความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้น ใช้เวลาออกไปไหนสักทีออกไปข้างนอกออกไป หาธรรมชาติและผ่อนคลาย แรงบันดาลใจจะตามหาคุณเมื่อคุณพร้อม

2. สร้างโปรเจค เพียงไม่กี่โปรเจ็ค

ในหนึ่งครั้งถ้าคุณเบื่อหรือคะคุณสามารถเปลี่ยนไปเป็นบางอย่างที่แตกต่างทำให้งานของคุณท้าทายมันจะทำให้คุณยังอยู่ในความสนใจการที่คุณสับไปสับมาระหว่างโปรเจกต์ มันทำให้คุณนั้นยุ่ง

3.เปลี่ยนเครื่องมือในการทำงาน
ถ้าคุณpaintลองดูเป็นดินเหนียว ปั้นดินเหนียวดูบ้าง ถ้าคุณสร้างภาพปะติดลองปากกาแล้วหมึกดูบ้าง ค้นหาอุปกรณ์ใหม่ๆและใช้อุปกรณ์ใหม่ๆ ดูที่รูป จังหวะและสี ในชีวิตและภายนอกกำแพงสตูดิโอของคุณ จับกล้องและถ่ายรูปสิ่งที่คุณคิดว่ามันน่าสนใจ
แรงบันดาลใจจากสถานที่บุคคลและเหตุการณ์
4.ไปสวนไปสถานที่ที่ชอบหรือไปปิกนิกไปฟังเพลง วางแผนที่จะหยุดซักสองสามวันถ้าต้องการ บางครั้งแค่อาบน้ำและหนังสือดีๆสักเล่มก็สามารถช่วยได้ ไอเดียก็คือหยุดทำงานสักพัก
5.ค้นคว้าอย่างหนักในสิ่งที่คุณต้องการจะสร้างสรรค์ขึ้นมา ไปยังห้องสมุดหรือว่าร้านหนังสือไปร้านหนังสือใหญ่ๆหรือไปยังส่วนของหนังสือภาพถ่ายนั่งตรงพื้นและ ค่อยค่อยดื่มด่ำกับคอนเทนท์
6.ไป ยังนิทรรศการที่คุณสนใจ
7.ไป ลงทะเบียนเรียนศิลปะ 

จะ ช่วย ให้ คุณ สร้างสรรค์ ร่วมกับ คนอื่นๆ ถามคนอื่นว่าเค้าคิดเกี่ยวกับงานของคุณอย่างไร มันน่าจะเป็นสิ่งที่คุณต้องการ ไปหาทางอื่นถ้าคุณยังคงมีปัญหาในการออกแบบอยู่
8.หาสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวัน

ที่คุณต้องการวาดหรือเพนท์ ถ่ายรูปของทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณ เมื่อคุณกลับไปดูบางครั้งคุณควรจะวาดภาพ doodle ของภาพถ่ายเหล่านั้นค่ะ
9.หาสิ่งที่ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์

มันอันจะเป็นคนหรือสัตว์อะไรก็ตามที่ให้แรงบันดาลใจคุณ
10.เข้าใจว่าคุณอาจจะรู้สึกลำบากใจเมื่อมาถึงเรื่องของความยากในการออกแบบและปัญหาในการออกแบบ ถ้านี่เป็นกรณีที่คุณเผชิญอยู่ให้ถอยออกมา ศึกษาใหม่และพยายามที่จะทำมันช้าช้า
11.ดูแลสุขภาพของคุณ

การที่คุณไม่ดูแลสุขภาพของคุณมันทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์งานได้น้อยลงและร่างกายของคุณต้องการการออกกำลังกายไปยิมหรือไปวิ่งที่สวนสาธารณะ ไปเดินยาวยาวเพื่อให้ เหงื่อไหล
ทานคาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีนมันจะช่วยให้คุณได้พลังงาน. ผู้คนจำนวนมากทานกาแฟและน้ำตาลเมื่อทำงาน. นั่นอาจจะทำให้ร่างกายคุณแย่ลงได้ควรจะต้องดูแลสุขภาพให้ดีๆ
ตื่นให้เช้าขึ้นคุณจะพบว่าคุณจะทำงานในตอนเช้าลองตื่นให้เช้าปกติสักนิดสำหรับศิลปินบางคนมันอาจได้ผล
12.ปฏิเสธความกลัวที่ว่าโปรเจ็คของตนจะต้องสมบูรณ์หรือไม่ ก็ไมมีอยู่ มันไม่จำเป็นจะต้องสมบูรณ์ ให้โอกาสตัวเองทำ งานที่ ไม่สมบูรณ์ ไม่เพอร์เฟคหรืองานที่แย่ดีกว่าการที่ไม่ทำงานเลย ศิลปะส่วนมากมาจากความพยายามและการเรียนรู้ไม่ใช่มาจากการคิดเริ่มที่จะวาดลงไปบนกระดาษได้แล้วค่ะ
ความคิดที่ว่าการกลัวว่างานตัวเองจะแย่มาจากการที่เปรียบเทียบงานตัวเองกับคนอื่นแทนที่จะทำสิ่งนี้ดูงานศิลปะของคุณเทียบกับงานเก่าดูว่าการของคุณพัฒนาขึ้นแค่ไหนจากเล็กน้อยคุณอาจจะพัฒนาขึ้นและ งานเปลี่ยนไปจนกระทั่งคุณรู้สึกโอเคกับมันไม่ใช่ไปคิดว่างานคนอื่นจะเป็นยังไง
ลงมือทำ
13.วาดลงไปปลดปล่อยอารมณ์เครียดที่อยู่ข้างในคุณ สิ่งที่สำคัญก็คือการตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและทำอะไรบางอย่าง ตัดกระดาษเพื่อที่จะออกแบบหรือเตรียมผืนผ้าใบออกมาจากความแย่ในชีวิตจำวันโดยการ doodle หรือวาดเล่นลองดูงานที่ผ่านๆมาของคุณ. เพียงแค่การ วาดเล่น วันละเล็กน้อย วงก้นหอย ก้อนเมฆ ฟองสบู่จับคู่คำในที่สุดคุณอาจจะค้นพบมาสเตอร์พีชโดยที่ไม่ต้องพยายามก็ได้



from WordPress http://ift.tt/2heAG7o
via IFTTT