หน้าเว็บ

วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 06, 2560

การเขียนนิยายและเนื้อเรื่องการ์ตูน ตอนที่ 1:องค์ประกอบของเนื้อเรื่อง

เขียนเสร็จแล้ว ขอจดที่เรียนคอร์สเขียนนิยาย Steve alcorn ไว้ตรงนี้หน่อยค่ะ จะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่น

ความแตกต่างระหว่างพล็อตและสตอรี่

-Plot

คือเชิงกายภาพ การกระทำ สำหรับพล็อตนั้นจะใช้กับหนังมากกว่านิยาย การเดินทางที่เห็นได้ชัดเชิงกายภาพของตัวละคร พล็อตจะเน้นแอคชันหรือการกระทำของตัวละครมากกว่าเนื้อเรื่อง ยกตัวอย่างเช่นเจมส์ บอนส์ จะไม่ค่อยอธิบายความรู้สึกตัวละครเท่าไร เน้นแอคชันตัวละครโดยการต่อสู้กับตัวร้าย หรือระเบิดภูเขาเผากระท่อม พล็อตไม่ใช่การกระทำอย่างเดียว ไม่ใช่แค่การใส่ฉากไล่ล่า รถชนกัน ปืนไล่ยิง ระเบิด แต่พล็อตจะต้องเป็นการกระทำที่มีความหมายที่ทำให้คาแร็คเตอร์นั้นเติบโตและส่งผลต่อการกระทำของคาแร็คเตอร์ในอนาคตด้วย
 

-story

คือส่วนที่เน้นความรู้สึกของตัวละครค่อนข้างมากกว่า และความเป็นไปของตัวละครตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง การเดินทางของอารมณ์ของตัวละครเช่นเรื่อง Twilight เรื่องพวกนี้ พอเป็นหนังแล้วความรู้สึกของคนจะดึงออกมาไม่เท่านิยาย สตอรี่คือส่วนที่เป็นการเติบโตทางอารมณ์จากผลของพล็อตเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ การใส่สตอรี่หรือความรู้สึกตัวละครมากไปทำให้ตัวละครไม่เดินไปข้างหน้าสักทีมัวแต่หมกมุ่นกับความคิดและความรู้สึกของตนเอง
หนังสือนั้นเป็นลักษณะเน้นสตอรี่มากกว่าหนัง ส่วนหนังเน้นพล็อตมากกว่าสตอรี่
เรื่องที่สามารถบาลานซ์ระหว่างพล็อต และสตอรี่ได้ดีคือแฮร์รี่ พอตเตอร์
ดังนั้นทั้งพล็อตและสตอรี่จึงมีความสัมพันธ์กันอย่างชัดเจน พล็อตทำให้ตัวละครต้องเติบโตจึงมีส่วนของสตอรีซึ่งก็คืออารมณ์ คนจึงมักเข้าใจผิดและสับสนระหว่างสองอย่างนี้เสมอ ถ้าพล็อตคือการกระทำหรือกิริยา สตอรีคือผลของการกระทำ หรือแรงปฎิกิริยา

 

dramatic element

-Passion

เป็นความหลงใหลของเรา ทำไมเราถึงเขียนนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา เราต้องมี้เหตุผลว่าทำไมก่อน สำหรับเราแล้วเหตุผลที่ทำไมเราเขียนเรื่อง เพราะเราต้องการแสดงความรู้สึก แสดงอารมณ์ และระบายสิ่งที่อยู่ในหัวออกมา เราต้องการทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำได้ เราต้องการท้าทายตัวเอง สำหรับเรื่องที่เราหลงใหลได้แก่เรื่อง ธุรกิจ เรื่องจักรวาล เรื่องการเป็นนักวาด เรื่องมิติ ดวงดาว การเปลี่ยนไปของโลก แฟนตาซี
 

-theme

คือสิ่งที่เราอยากให้คนอ่านได้ไป เมื่อคนอ่านนั้นอ่านนิยายหรือการ์ตูนของเราจบแล้ว บางทีนั้นธีมก็ซ้อนทับกับ passion อยู่ก็คือในบางครั้ง passion ของเราก็นำมาเป็นธีมของเรื่องนิยายได้นั่นเอง แต่หลายๆครั้งธีมก็สามารถเป็นเรื่องเฉพาะได้ด้วย เช่นตัวเอกอาจจะไม่มั่นใจในตอนแรกของเรื่อง แต่เขาก็สามารถเอาชนะเรื่องนั้นได้ตอนจบเรื่อง สำหรับเรานิยาย seraphim torus ตัวเอกจะเป็นคนที่กลัว ไม่กล้าแม้แต่จะเห็นเลือด แต่กลับต้องมีความกล้าหาญและเอาชนะตัวเองให้ได้ ยกตัวอย่างเพิ่มเช่นเรื่อง hunger game ธีมคือการเสียสละ การเสียสละตัวเองเพื่อช่วยน้องสาว(ในเล่มแรก) ตัวอย่างคลาสสิคอีกอันคือซีรีย์แฮร์รี่พอตเตอร์ สิ่งที่เจ๋งของซีรีย์ก็คือ ในแต่ละเล่มนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นธีมเดียวกัน และตลอดเรื่องเราจะเห็นว่าแฮร์รี่นั้นถ่อมตัวมาก
-flaw ข้อเสียของคาแร็คเตอร์ ถ้าคาแร็คเตอร์นั้นเพอร์เฟ็คเกินไป จะเห็นได้ว่ามันจะไม่ค่อยมีส่วนของสตอรี่หรืออารมณ์ของคาแร็คเตอร์เลย เช่น เจมส์บอนด์ซีรีย์ เป็นต้น การที่เจมส์บอนด์เพอร์เฟค จึงแทบไม่มีการแสดงความรู้สึกและการเติบโตในฐานะคาแร็คเตอร์เลย ซึ่งจริงๆแล้ว การต่อสู้ที่เข้มแข็ง คือการต่อสู้กับตัวเอง กับจุดอ่อนและข้อเสียภายในจิตใจเรา ยกตัวอย่างเช่น รันม่ากลัวแมวมาก จนกระทั่งจุดหนึ่งพัฒนาหมัดแมวขึ้นมา สำหรับจุดอ่อนของคาแร็คเตอร์เรา คือไกอาก็คือเธอเป็นคนคิดมาก และไม่มั่นใจในตัวเองอย่างรุนแรง
 

-Premise

 
คือ สิ่งที่ผูกเอาธีมและเนื้อเรื่องเข้าด้วยกัน เช่น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไกอา สาวน้อยผู้ที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง และคิดมาก จะต้องถูกตามล่าโดยทอรัส เธอจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีความกล้าหาญขึ้น เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดและช่วยเหลือเหล่าโซลเมทของเธอได้


from WordPress http://ift.tt/2lecjIW
via IFTTT

ไม่มีความคิดเห็น: