สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะเล่าประสบการณ์การเขียนนิยายของเราให้ฟัง เราเขียนนิยายเนื่องจากเรารู้สึกว่าความ challenge ในการวาดของเรามันหมดไป เรารู้สึกว่าจริงๆอาจจะถึงเวลาที่เราควรลองทำอะไรใหม่ๆ เราทำ challenge วาด 30 วันไปไม่ถึงครึ่งก็รู้สึกว่ามันถึงจุดที่เราไม่อยากเก่งขึ้นอีก
เรารู้สึกว่าที่จริงเรามือตกไม่ใช่เพราะว่าเราวาดรูปไม่ดีแล้ว เพียงแต่เราขาดแรงบันดาลใจอย่างรุนแรงและไม่มีความรู้สึกอยากจะเก่งขึ้นซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการวาดรูปให้เก่ง เราขาดเหตุผลว่า”ทำไม”ต้องวาดรูปให้เก่งขึ้นอีก ในเมื่องานที่วาดเก่งๆมากๆแล้วดูสวยมากแต่ออกมาคล้ายๆกัน แต่เราอยากทำงานที่แตกต่างดู เลยอยากจะทำอะไรใหม่ๆให้ไฟและแรงบันดาลใจในการวาดรูปกลับคืนมา
ในการที่เราทำสิ่งนี้เราต้องปรึกษาคนเยอะมาก ทั้งลูกศิษย์และเพื่อน และคนรู้จัก เพื่อให้คำแนะนำในการเขียนนิยาย รวมทั้งลงคอร์สการเขียนนิยายของต่างประเทศ ลงไว้หลายคอร์ส ค่อยๆเรียนทีละคอร์ส เรียกว่าเอาจริงกันเลยทีเดียว แล้ววันนี้นักเรียนของเราก็ให้คำแนะนำว่า คาแรคเตอร์ที่ดี ควรต้องเป็นสีเทาๆ ไม่ขาว ไม่ดำจนเกินไป มันอาจจะเป็นเทาดำ หรือเทาขาว และต้องสร้างสันดาน หรือนิสัยให้กับคาแร็คเตอร์นั้นๆให้ลึกพอที่คนจะอินกับมัน และสิ่งที่ได้จากนักเรียนอีกอย่างคือ การสร้างเรื่องจะต้องมี logic ถ้าจะฟุ้งก็ฟุ้งไปเลย แต่ถ้ามี logic บางอย่างจะทำให้เรื่องดูน่าเชื่อถือ แต่บางอย่างปล่อยไว้ให้มันเป็นปริศนาบ้างก็ได้ และต้องรักตัวละคร ให้เหมือนกับเราอยู่ในเรื่องจริงๆ
เราเขียนนิยายมาประมาณ 2-3 สัปดาห์ เขียนไป 19 ตอน แต่ว่านำมารวมลงเว็บไซต์ตอนนี้ได้ 6 ตอนด้วยกัน เรารู้สึกว่านิยายนั้นมีฉากเพื่อต้องการอธิบายให้เห็นถึงอารมณ์ต่างๆมากกว่าคอมิค และในเมื่อคนไม่เห็นภาพจึงต้องใช้การอธิบายเป็นจำนวนมากทั้งฉากต่างๆที่ช่วยสร้างอารมณ์ในนิยาย ซึ่งเป็นการเขียนแตกต่างจาก nonfiction ที่เราชอบเขียนในนี้ เราจึงต้องปรับตัวเยอะมาก เพื่อที่จะเขียนนิยายได้ดี รวมถึงศีกษาสำนวน การเลือกคำ จากนิยายเรื่องอื่นๆด้วยค่ะ เราไปยืนเลือกนิยายแฟนตาซีในร้านหนังสือเป็นชั่วโมงๆ ถ้าถามว่าเราเขียนนิยายไปทำไม เบื้องต้น เราเขียนเพื่อนำไปทำเป็นคอมิคค่ะ แต่ว่าพอจะลองทำคอมิคจากนิยายจริงๆ พบว่าเราเป็นคนทำสตอรี่บอร์ดไม่เก่ง เรื่องนี้เราก็คงต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีก และเรียนรู้ว่าบางทีบางอย่างที่ไม่ถนัดเพราะเราไม่ได้ทำบ่อยๆ อย่างเรื่องการเขียนเราก็ไม่คิดว่าเราจะทำได้ตอนแรก แต่พอทำบ่อยๆก็คล่องและเกิดความชำนาญ
แต่ถ้าถามว่าตอนนี้มีความสุขไหม มีความสุขดีค่ะ มีความสุขเพราะว่าเรารู้ว่าจริงๆแล้วเราทำอะไรได้มากกว่าที่คิด มีความสุขที่รู้ว่ามีคนตามอ่านผลงานของเรา และมีความสุขที่ได้วาดภาพประกอบนิยายของตัวเอง ถ้าตอนนี้คุณยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคุณชอบอะไร หรือต้องการอะไรในชีวิต คุณลองเปลี่ยนเส้นทาง ลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำดู แล้วคุณจะรู้ว่า จริงๆแล้วสิ่งที่คุณเคยคิดว่าคุณทำไม่ได้ คุณอาจจะทำได้ก็ได้ ถ้าคุณพยายามมากพอ และฝึกฝนจนเก่ง ความพยายามที่มากพอ ไม่ใช่แค่การฝันกลางวันว่าจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ได้ แต่เป็นการลงมือกระทำให้มากพอ จนเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในชีวิตค่ะ
ส่วนเรื่องนิยายนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากไหน มาจากเรื่องรอบๆตัวและเรื่องที่ตัวเองประสบมาค่ะ
เราเขียนเรื่องนี้ด้วยความรู้สึกมีความสุข รู้สึกมีไฟ รู้สึกว่าอยากตื่นขึ้นมาทำอะไรสักอย่างทุกๆเช้า เราคิดว่า เราทำเต็มที่แล้ว คนอ่านจะสัมผัสสิ่งนั้นได้เอง ไม่ว่ามันจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่ถ้าไม่ลอง แล้วรออยู่เฉยๆ เราคิดว่ามันก็จะไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากนี้ เราอาจจะมีความสุขกับการสอนก็จริง แต่ว่าการสอนเป็นการสร้างคน เราเองก็ต้องสร้างผลงานของตัวเองเพื่อให้นักเรียนเห็นด้วยเช่นกัน และเราจะไม่หยุดสร้างผลงานใหม่ๆ ตราบที่ยังหายใจอยู่ค่ะ มันอาจจะเป็นผลงานรูปแบบอื่น ที่ไม่ใช่การวาดรูปก็ได้
ส่วนคนที่บอกให้เราเขียนนิยาย คือพี่แป้งมอนโตะค่ะ พี่แป้งบอกว่า มุ่ยน่าจะลองเขียนนิยายดูนะ
เพราะว่าความฟุ้งของเรามีเยอะมั้ง พี่เขาสัมผัสได้ ก็เลยบอกให้เราเขียนนิยายซะ 5555
ส่วนเรื่องแนวในการเขียน จริงๆเราเขียนแนวแฟนตาซี รัก เพราะถนัด และสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของ illustcourse ด้วยส่วนหนึ่ง และเราเขียนให้ตัวเอกวาดรูป เพราะสามารถนำคาแรคเตอร์มาใช้ใน illustcourse เพื่อสอนเรื่องต่างๆให้กับทุกคนได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ อันนี้เป็นผลพลอยได้ค่ะ
ถ้าใครอยากลองอ่านก็ไปที่ http://www.koronox.com นะคะ
from WordPress http://ift.tt/2lFAn9U
via IFTTT
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น