หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดี, กุมภาพันธ์ 08, 2561

น้อยแต่มาก | ดิบแต่งาม เป็นยังไงกันนะ?

บอกตรงๆ แฮปปี้กับแนวเพนท์นี้มากกกกกสุดๆ
และเพิ่งเจอเทคนิคใหม่ด้วย
ช่วงนี้รู้สึกว่างานมันดูโอเคแล้วสำหรับตัวเรา คือชอบมากแล้ว
เหลือเกลาๆให้ลง สไตล์นี้นั้นเป็นอะไรที่
เหมาะกับนิสัยการทำงานเรามากสุดๆเลย
จริงๆมีอีกเยอะ แต่ไม่ได้โพสต์ที่อื่น
ใครสนใจ ดูงานในแกลเลอรี่ลับได้ที่
http://buymeacoffee.com/meisan
นะคะ
.


ถามว่าทำไมชอบเหรอ

ชอบงานแนวที่มันเอาไปทำสินค้าต่อได้โดยตรงเลยน่ะค่ะ
(ไม่ใช่งานคอนเซปต์) หมายถึงวาดแล้วเอาไปทำลายของอะไรสักอย่างแล้วมันสวย เอาไปแอพพลายด์เป็นภาพประกอบหนังสือ การ์ตูนได้ แล้วมันดูกลางๆมีกลิ่นการ์ตูนญี่ปุ่น ฝรั่งปนกันๆ ไม่ manga จ๋า ดีใจที่วาดรูปมาเรื่อยจนเจอที่หยุดตรงนี้สักที แล้วพัฒนาแนวนี้ต่อเลย ดีใจมากที่ยอมขายซินทีค เพื่อโฟกัสไอแพดโปร กับลงทุนซื้อหัวแปรงหลายเซ็ท ทดลองจนเจอที่ใช่
.
ต่อไปนี้จะไม่แข่งกับใครเรื่องเพนท์เก่งๆถึกๆแล้วนะ หยุดตรงนี้แหละวาดแบนๆ แสงเงานิดหน่อย เจอทางแล้ว วิ่งในเลนตัวเองพอ
.
กว่าจะเจอตัวเอง บอกตรงๆหลงทางมาเยอะค่ะ ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเราเป็นแนวไหนกันแน่ แต่จริงๆแนวเส้นถึกๆก็ยังทำอยู่นะ งานแนวนี้เอาไว้ทำดิจิตัลเฉยๆ
ถ้างานอาร์ท มันก็มีแนวของมันอยู่
.
แล้วเรื่องแปลกอย่างนึงเกิดขึ้น พอเราบอกว่าจะเลิกรับงานจ้าง ก็มีงานจ้างวิ่งเข้ามาเต็มเลย ทั้งงานวาด ทำเว็บ ทำคอนเทนต์ เลยไม่ได้เลิกรับสักที ^^; ก็คิดว่าถ้ามีก็ทำไปละกัน ไม่มีก็ไม่ต้องทำ ไม่ต้องคิดว่าจะเลิกรับงานจ้างอะไรแบบนี้หรอก จำกัดตัวเองไปเปล่าๆ มั้ง แต่เรารับเฉพาะลูกค้าที่เราโอเคด้วยนะ
.

ถามว่าทำไมไม่ชอบงานเพนท์ถึก

เราเองก็ชอบดูนะ แต่พอลองทำเองแล้ว รู้สึกว่า …มันต้องรู้เพิ่มอีกเยอะมากๆ (จริงๆศึกษาอยู่หมดแหละ ให้สอนสอนได้) แต่มันไม่ได้โฟกัสที่จุดแข็งที่เราเองสนใจเลย เช่น เรื่องการเลือกสีให้เด่น องค์ประกอบทางกราฟิค หรือ ความสวยงามเวลาเอาไปทำสินค้าอื่นๆ เราเลยไม่ได้สนใจแนวเพนท์ถึก และคิดว่า จะเลิกสอนแนวถึกๆด้วย คงไม่มีอีกแล้ว ถ้าอยากเรียนคงต้องไปเรียนที่อื่นจริงๆค่ะ
.
แต่เรื่องศึกษาพื้นเพิ่มก็คงศึกษาไปเรื่อยๆแหละค่ะ ส่วนคนที่ทำ เราก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ ก็ชอบดูนะ แต่ถ้าให้ทำ อย่างที่บอกคือ ไม่ชอบทำแนวนี้ แต่ที่เมื่อก่อนทำบ้าง เพราะว่าอยากทดสอบ challenge ความสามารถของตัวเอง แล้วก็พบว่า มันไม่ได้ชอบ ก็ไม่ไปต่อ เซย์กู้ดบายกันไป คำนิยามของเราคือ เราคิดว่าจะทำแนวกราฟิค อิลลัสเตรท ที่เป็นกลิ่น manga นิดๆ ฝรั่ง ไทย ฟิวชันกันไป

MY HERO(right now)

1.Daisuke DICE Tsusumi

คนนี้ตามงานมาตั้งแต่ทำ ROBOTS ของ Bluesky studios แล้ว แล้วรู้สึกว่า งานนี่อย่างแม่นเลย ปาดเดียวเห็นแสงเห็นอะไรหมด ข้อมูลใน 1 สโตรก มีเยอะมากๆ น่าสนใจมาก เราคิดว่า ถ้าพื้นฐานแน่นแล้ว มันเหมือน ZEN มันไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องเพนท์มากๆ หรือเพนท์เนียนๆ ก็สามารถทำให้ภาพสวยได้ เราชอบงานมีบรัชสโตรกมากกว่างานเกลี่ยเนียนๆนะ DICE สามารถทำงานได้เร็วมาก (ชอบคนทำงานเร็วๆ) ดูรู้ได้ไง เพราะ DICE ทำงานในวงการ Animation ล่าสุดที่เราตาม เราซื้อ Artbook COCO มา ก็มี DICE วาดภาพประกอบอยู่ในนั้น มันสวยมากๆ คือ มันแตกต่างจากนักวาดคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด ทำน้อยกว่า ได้เยอะกว่า เพราะเขาแม่นพื้นฐานมากๆ แสงเงา อนาโตมี่ อื่นๆ พอสโตรกไปสโตรกเดียว มันใช่เลย
.


2.Pascal campion


เห็นรูปคนนี้แล้วเป็นอะไรไม่รู้ มืออยากกดแชร์ไปซะทุกรูป มันสวยมากๆ แบบไม่เยอะ ไม่ต้องเพนท์ถึกมากๆ แต่งานดูเวิร์คบนสินค้าต่างๆทันที งานแม่นมากๆ แบบสโตรกเดียวอยู่ เห็นข้อมูลเยอะเหมือนกัน
.


3.Uesugi Tadahiro


คนนี้สุดยอดจริงๆ ลายเส้นในอุดมคติเลยนะ มันดูแฟชัน ดูทันสมัย ในขณะเดียวกันก็ดูวินเทจ แอบ grunge นิดๆ แต่เราอยากได้กลิ่น manga และไทย เพิ่มเติมจากคนนี้อีกหน่อย และเหมือนกับสองคนด้านบน คือแม่นมาก (ศึกษากันต่อไปค่ะ Orz) แม่นแบบสโตรกเดียว ป้าบ อยู่


.
มันมีคำนึงที่พี่แพค Sinwat Intararak พี่ที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน เพราะเขาฟัง podcast เรา เขาพูดถึงเรื่องการเงิน ก็คือ บอกว่า

เรามีมีด มีดาบชั้นดีแล้ว แต่เราเอาไปหั่นอย่างอื่นอยู่

แทนที่เราจะนึกถึงเรื่องการเงิน เรากลับนึกถึงสไตล์การวาดมากกว่าแฮะ คือ เรารู้สึกว่า คำพูดนี้ เหมือน Tossaporn Tanadeerojkulก็เคยพูดกับเราว่า

มีมีดหั่นแซลมอน ก็เอาไปแล่แซลมอนให้มันเนียนๆ สามารถเอาไปปรุงปลาดิบได้ มีวัตถุดิบชั้นดี ที่กินแบบดิบๆก็ปรุงแบบดิบๆไม่ใช่ว่าพยายามทำให้มันสุกก่อน
.


นอกจากนี้เต้ยยังบอกเราอีกว่า ถ้าหากเรามีมะละกออยู่ในตู้เย็น เราสามารถเอามาทำส้มตำได้ แต่สิ่งที่เราทำสมัยก่อนคือ เราเอามะละกอดิบ มาเสริ์ฟคนเลย งานเรา Raw เกิน ไม่ผ่าน process การคิดและการตัดสินใจมากพอที่จะจบแบบ น้อยแต่มากหรือ Zen แบบนักวาดทั้งสามที่เป็นตัวอย่างได้
.
เรานึกถึงตัวเราสมัยก่อน ที่พยายามเก่งเรื่องสกิลให้มาก จนไปเจอเพดาน เพดานที่ว่าคือ ถ้าเราแข่งขันกับคนอื่นๆด้วยสกิล ด้วยทักษะ เราจะต้องอัพมันไปเรื่อยๆ และไม่รู้ว่ามันจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน กลับกัน เราคิดว่า หันมามองจุดแข็งตัวเอง จุดแข็งเราคือ

1.สี

2.เรามีเซนส์เรื่อง negative space เพราะทำงานวาดภาพมาเยอะมากระดับนึงจนมองออก

3.เราวิเคราะห์ตัวเองเป็น เพราะเราเป็นครู เราเลยรู้ว่าตัวเองชอบ หรือไม่ชอบอะไร หรือต้องไปแนวทางไหนค่ะ

The post น้อยแต่มาก | ดิบแต่งาม เป็นยังไงกันนะ? appeared first on ILLUSTCOURSE-คอร์สเรียนวาดรูป,วาดภาพประกอบ,เรียนวาดการ์ตูน,เรียนสีน้ำและรวบรวมความรู้สำหรับผู้สนใจในการวาดภาพประกอบ,digital painting,character design.



from WordPress http://ift.tt/2BKABpk
via IFTTT

ไม่มีความคิดเห็น: