ไกอาเดินมาหยุดหน้าตึกจิตวิทยา
เธอกำลังไปหานักจิตวิทยาตามคำสั่งแพทย์ นี่เป็นครั้งที่ 5 ที่เธอมาพบจิตแพทย์แล้วจิตแพทย์บอกว่าเธอไม่เป็นอะไร แต่เธอก็ยังไม่แน่ใจจิตแพทย์เลยบอกให้เธอ มาหานักจิตวิทยา
นักจิตวิทยาก็รุ่นสูงอายุเช่นกัน แต่เธอมีผมดำ คาดว่าจะย้อมมา นัยน์ตาดูใจดี
“ไหนหนูลองเล่าให้น้าฟังสิ เรื่องที่เจอมาทั้งหมด”เธอเรียกตัวเองว่าน้า แต่หน้าไปไกลเกินน้ามาก
“ค่ะ ป้า..เอ๊ย น้า…คือหนู……….”
เธอเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับป้านักจิตวิทยาฟัง ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ราวกับว่าทั้งหมดเพิ่งเกิดขึ้น
“เอาล่ะ หนูดูรูปหยดหมึกเหล่านี้สิ แล้วลองบอกน้าว่าเหมือนอะไร”
นักจิตวิทยาเอารูปหยดหมึกที่ผสมจากสีน้ำ
ทาบจนทั้งสองด้านสมมาตรเป็นสีต่างๆกันเหมือนงานศิลปะสมัยเด็กให้ ไกอาดู
ไกอาเคยได้ยินว่าถ้าตอบว่าเห็นค้างคาวบินไปมา แปลว่าเป็นคนบ้า เธอเลยพยายามเลี่ยงเป็นคำตอบอื่น เธอทำแบบทดสอบหยดหมึกไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง….
“หนูว่าภาพนี้เหมือนนก”
ในที่สุดก็ภาพสุดท้ายสักที
“เอาละ หนูลองเล่นเกมต่อภาพนี้ และชิ้นนี้” เธอหยิบเกม puzzle ออกมาให้ฉันเล่นสองสามเกม
แล้วก็ให้ทำแบบทดสอบยาวเหยียด ซึ่งไกอาก็ทำโดยไม่มีปริปากบ่น เธออยากรู้ว่าเธอเป็นอะไรกันแน่
“น้าจะเอาผลไปปรึกษาหมออีกที แต่เท่าที่ดู หนูเป็นคนอ่อนไหว แข็งนอก อ่อนใน”
“คุณน้ารู้ได้ไงคะ” ฉันประหลาดใจเพราะเรื่องนี้ฉันไม่รู้มาก่อน
“ก็ฉันเป็นนักจิตวิทยานี่จ้ะ เธอยิ้มพลางเอามือประสานกันไว้ข้างหน้าราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นก็บอกให้ไกอาออกไปได้ พร้อมกับทิ้งคำสั่งลาว่า
“หนูรู้ไหมจ้ะ ถ้าไม่อยากเป็นโรคหละก็ ก็ทำตัวเป็นคนปกติสิจ้ะ แบบที่หนูเคยเป็นเมื่อก่อน”
เป็นคำแนะนำที่พูดง่ายแต่ทำยากมาก เธอพยายามใช้ชีวิตปกติ ไม่คิดถึงเสียงในหัวอะไรนั่น และไม่พยายามคุยด้วย พยายามเป็นคนปกติ และรุ่งขึ้นเธอก็เข้าชั้นเรียนตามปกติ
“ให้ตายสิ”อิควิน็อกซ์สบถ
“มีอะไรหรือครับ…คิน็อกซ์”เขาพยายามเรียกชื่อเล่นของอิควิน็อกซ์ แต่ฟังจั๊กจี้หูชะมัด มันควรจะเป็นชื่อที่คู่รักเอาไว้เรียกกันเล่นๆมากกว่า
“เธอปิดกั้นเรา เธอไม่คุยกับเรา ยิ่งเราคุยกับเธอ เธอก็จะนึกจริงๆว่าเธอกำลังคุยกับตัวเอง”
“ไกอาเหรอ คุณเห็นอนาคตไหมหละ ใช้พลังพิเศษสิ”น็อกซ์เสนอ
“บ้าสิครับน็อกซ์…..ผมมีพลังพิเศษที่ไหนหละเวลาเทเลพอร์ทมาแล้วจะสูญเสียพลังพิเศษนอกจากจะเทเลพอร์ทกลับซึ่งผมเอาไว้ใช้ยามจำเป็นเท่านั้น” อิควิน็อกซ์พูดพร้อมเดินสโตรกเกอร์เกีย ดิเสปคตราหรือรีลไปเรือยๆ
“แล้วทำไมโซลทีมต้องเป็นพวกเราด้วยครับ ทีมอื่นไม่มีเหรอ”
“เฉพาะเราสามคนที่มีแฟรกเมนต์ของโซลไกอาร่วมด้วยและเคยเกิดเป็นคนเดียวกัน เราเรียกว่า โปรโตโซล”
“เหมือนโปรโตชัวร์หรือเปล่าครับ…..ผมเคยเรียนสมัยม.ปลาย”
“นี่คุณยังเรียนหลักสูตรโบราณอีกเหรอ มิติผมไอ้ตัวนั้นเราเรียก ซัวเรีย”
“ผมเห็นภาษาคุณก็ลงท้ายเรียหมดแหละ”น็อกซ์พยายามกลั้นหัวเราะ เขาหลุด หึ ออกมาคำหนึ่ง
“เอ็กโซดัสลงท้ายด้วยดัสนะ…..”อิควิน็อกซ์ทำหน้าเจื่อนๆ เหมือนโดนแซวแล้วตีกลับไม่ได้
“ครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” น็อกซ์หัวเราะ ไม่รู้เขาหัวเราะทำไม หรือเขาขำหน้าอิควิน็อกซ์ไม่รู้
“เฮ้ย….” อิควิน็อกซ์อุทาน
“อะไรครับ คินอกซ์”เขายังไม่หายจั๊กจี้เวลาพูดชื่อนี้
“นั่นมันไกอานี่ครับ” เดี๋ยวนะ……….หรือว่า…….
ตัดมาที่โรงเรียนของไกอา เซนต์เฮสเตรียบลิส ไกอาเรียนสายวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์หลักสูตรดั้งเดิม แม้แต่การศึกษาทอรัสก็ให้อนุรักษ์ของเดิมเอาไว้ หรือกระทั่งการบังคับให้ใส่เครื่องแบบ แสดงให้เห็นว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ปกครองเฮสเทรียอย่างแท้จริง เฮสเทรียอิสรเสรีอย่างที่มันเป็นแน่หรือ
“สวัสดีจ้ะ นักเรียนทุกคน วันนี้เรามีเพื่อนใหม่มาแนะนำ เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน จากโรงเรียนแซงจูรี่ทอรัส”
“สวัสดีครับ รีล โซล คีน ครับ เรียกผมว่ารีลก็ได้”
เสียงเด็กสาวๆต่างกรี๊ดกันเกรียวกราว ส่วนหนุ่มๆทำหน้าเซ็งจัด เพราะว่ารีลนั้นหน้าเขาเกือบเหมือนพวกเซราฟิมแล้ว แต่เขาตัดผมสั้นกุด ผมสีน้ำตาลเข้ม และยังไฮคัทอีกต่างหาก คิ้วหนา ปากแดงอมชมพู ราวกับทา tint แต่เป็นสีธรรมชาติ หลังหู มีรอยสักประหลาดๆเป็นรูปคล้ายเลขแปดเรียงกันสามแถว มีจุดตรงกลางแต่ละส่วนกลมๆของเลขแปด และมีรูปต้นกล้าผ่าตรงกลางเลข 8 นั่น อ้อ โรงเรียนแซงจูรี่ทอรัสหนะไม่ต้องใส่เครื่องแบบ เขาจึงใส่เสื้อยืดมาเรียน เสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขาเดฟ ตัดเหลือตรงข้อเท้าด้านบน แต่งตัวดูมีสไตล์มากทีเดียว กลางอกเขาเขียนว่า
I draw therefore I am …..
“ที่ข้างๆไกอาว่าง รีลไปนั่งตรงนั้นนะ” อาจารย์บอก
“ครับอาจารย์”
เขาเดินปรี่ตรงมายังไกอา ลีลาราวกับลูกสิงโตตัวใหญ่ที่เดินอย่างสง่าผ่าเผย
“สวัสดีครับ คุณคือไกอาเหรอ “เขายิ้ม เห็นฟันขาวเรียงตัวกันเป็นระเบียบ
“ค…ค่ะใช่”ไกอาตอบ เธอไม่รู้จะทำตัวยังไง เพราะรีลมาอย่างเร็ว
“ผมชอบสีผมคุณ ไว้ผมวาดตัวละครใหม่ ผมจะให้ตัวละครทำผมสีนี้ สี Ash”
“คุณวาดรูปด้วยเหรอ”
เขาไม่ตอบ พร้อมหยิบเครื่องมือในมือมา มันเป็นแผ่นใสๆบางๆและเขาใช้นิ้ววาดบนแผ่นนั้น 2-3 นาที
“อ่ะ เหมือนเธอไหม” เขาหันกระดานไปที่เธอ
เขาวาดรูปเธอเป็นการ์ตูน แต่มันออกมาเป็นภาพโฮโลแกรมสามมิติ ทุกคนในห้องตื่นตาตื่นใจมาก
“ผมส่ง Flair ให้เธอแล้วนะ เช็คได้ มันจะเปิดออกมาเป็นโฮโลแกรม” เขาฉีกยิ้มจนตาแทบปิด
Flair เป็นศัพท์ใหม่เกิดขึ้นหลังสงครามเป็นฟอร์แมทที่สามารถส่งอะไรก็ตามที่เป็นไฟล์สามมิติ เห็นได้ จับต้องได้ แต่ไม่สามารถพังทลายได้นอกจากการลบ
“แหม รีลโชว์ออฟใหญ่เลย เอาละครูลืมแนะนำ รีล โซล คีน เพิ่งชนะการแข่งขันเฮสเตรียทอรัสดรอว์ลีคเวิลด์แชมป์เปี้ยนมา……..ถ้าพวกเธออยากรู้มาหาครูที่ห้องพักครูนะ ครูจะอธิบายให้ฟัง”
from WordPress http://ift.tt/2kJ23e5
via IFTTT
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น