หน้าเว็บ

วันศุกร์, สิงหาคม 31, 2561

งานอนิเมชันสั้นใน หนังสั้นของ น้องพลอยชมพู Jannine Wiegel ‘The Diary’

สวัสดีค่ะ มาโพสต์งานค่ะ

มีโอกาสทำอนิเมชันสั้นให้น้องพลอยชมพูค่ะ ลองไปดูกันนะคะ

TEAM
SASI TANADEEROJKUL
TOSSAPORN TANADEEROJKUL
NATEE THANADEEROJKUL
THANAKORN KONGUDOM
KAIRIKA WATTILITY

รูปนี้คือรูปที่ทำให้เราได้งานอนิเมชั่น หนังสั้นน้องพลอยชมพูนะคะ และได้งานนี้ เพราะภาพเราเก่า เรโทร ลูกค้าชอบ เก่าดี
บางคนอาจจะบอก เฮ้ย ต้องตามกระแส ต้องวาดแบบนักวาด x นักวาด y เราคิดว่า เป็นตัวคุณดีที่สุดค่ะ เราคิดอยู่นานว่าจะปรับลายเส้นให้ดูแล้วง่าย คลี่คลายขึ้น แต่รูปนี้ เป็นรูปที่ทำให้เราเห็นว่า สุดท้ายแล้วเป็นตัวเองยังไงก็วินนะ หวังว่าคุณเองก็จะมีวันของคุณ

แต่อย่าลืมว่า อยากเก่า ก็ต้องเก่าให้ถึง อยากใหม่ ก็ต้องใหม่ ให้ถึง
จำนวนไลค์ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ทำให้เราได้งานดีๆค่ะ

ที่น่าแปลกใจคือเราไม่มีพอร์ตอนิเม แต่เราได้งานนี้เพราะรูปนี้รูปเดียวนะคะ

มีรูปที่เราวาดด้วย

The post งานอนิเมชันสั้นใน หนังสั้นของ น้องพลอยชมพู Jannine Wiegel ‘The Diary’ appeared first on ILLUSTCOURSE-คอร์สเรียนวาดรูป,วาดภาพประกอบ,เรียนวาดการ์ตูน,เรียนสีน้ำและรวบรวมความรู้สำหรับผู้สนใจในการวาดภาพประกอบ,digital painting,character design.



from WordPress https://ift.tt/2PPQOxc
via IFTTT

10 วิธีป้องกันและจัดการดรามาด้วยตนเอง

สวัสดีค่ะ มาพบกับวิธีการดีลกับดราม่านะคะ แน่นอนค่ะ ถ้าเขียนอะไรไปแล้ว แล้วเรามีจุดยืนชัดเจน ก็จะมีทั้งคนชอบ และคนไม่ชอบ และมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดดราม่า มาดูกันว่า วิธีการจัดการของเราเป็นแบบไหนนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับทุกคนค่ะ ขอบคุณค่ะ

บอกตรงตรงนะไม่กลัวเลยว่าพูดสิ่งที่ตัวเองคิดแล้วจะมีคนไม่ชอบ Kurt Kobain กล่าวไว้เกลียดสิ่งที่ฉันเป็นดีกว่ารักในสิ่งที่ฉันไม่ได้เป็น

ทำไมถึงไม่กลัวคนเกลียด?
ถ้ามีคนเกลียดเรา
ก็หมายความว่ามีคนรักเรา
ไม่มีทางที่จะมีแต่คนที่เกลียด
และไม่มีทางที่จะมีแต่คนที่รัก
 
แต่ถ้าเราไม่เลือก ที่จะเป็น
เลือกทีจะไม่แสดงความคิดเห็น
อยู่เงียบๆ
เราก็จะไม่เป็นอะไรเลยสักอย่าง สำหรับใครสักคน
แล้วก็ตายไป โดยไม่สร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร
ให้กับสังคม ให้กับโลกเลย
 
แต่ถ้าเราเลือกที่จะพูด
แน่นอน เราก็ต้องรับได้
ทั้งคนที่เกลียดเรา
คนที่รักเรา
 
การเกลียดคน มันใช้พลังงานมากนะรู้ไหม?
เพราะการเกลียด คือการให้ความสนใจแบบนึง
ถ้าเพิกเฉยสิ ถือว่าเจ็บปวดที่สุด เพราะ
เราไม่มีตัวตนในสายตาเขาเลย
 
เหมือนเรา เคยถามคนที่เราชอบว่า
เราจะเป็นเพื่อนกันได้ไหม
เขาตอบ ไม่ ไม่เลยสักที่
ผมไม่ได้เกลียดคุณ ไม่ได้รู้สึกแย่
แต่เราจะไม่เป็นเพื่อนกัน
ไม่ว่าจะส่งข้อความไปเท่าไร
ก็เหมือนกับจมหายไปในทราย
แบบนี้เจ็บปวดยิ่งกว่าบอกตรงๆว่าเกลียดอีก

เลือก 1 like ที่ชอบเราจริงๆ
มากกว่า 1 ล้านไลค์ ที่ชอบเรา
เพราะเราเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้เป็นคนอื่น

เอาละ มาดูวิธีการจัดการดราม่านะคะ

1.จะเรียกวิธีป้องกันก็ไม่ถูกเรียกว่า’หลบระเบิด’ดีกว่า
สิ่งที่อันตรายมากๆอันตรายสุดๆคือ’ฟีดหน้าแรก’ค่ะกับ’ทวิตเตอร์’
เซฟๆเราจะงดรูดฟีด facebook หน้าแรกไปเลยอาทิตย์หนึ่งหรือสองสามวัน
ไม่เข้าทวิตเตอร์ด้วยนะคะ

2.เพราะฉะนั้นโพสต์อะไรไปแล้วเราจะหลบระเบิดโดยการไม่ไปตอบคอมเม้นต์อะไรใดใดทั้งสิ้นที่อยู่นอกเหนือจาก Facebook เรา
ปล่อยคนที่คิดต่างถกเถียงกันเองค่ะ

3.ถามว่าทำไมทำแบบนี้เพราะว่าถ้าฟังคนอื่นมากๆมันเสียจุดยืนเลยค่ะ แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นคล้อยตามคนอื่นไป ฟังคนอื่นก็มีแนวโน้มที่จะเสียแนวความคิดดั้งเดิม ไม่ใช่เราไม่ฟัง เราฟัง ถ้ามาพูดกับเราตรงๆนะคะ คนเราควรเคารพความคิดเห็นแตกต่างค่ะสังคมจะอยู่ได้ดี ไม่ใช่เราไม่เคารพความคิดเห็นคนอื่นนะเราก็เคารพถ้ามาก็คอมเมนต์ในที่ของเราเราก็ยินดีจะตอบอย่างสุภาพชนนะคะ

4.ถ้าเขียนอะไรที่ดูกลางๆเซฟเซฟ เชลียร์ ไม่พูดในสิ่งที่คิดจริงๆ มันจะไม่มีอิมแพ็คอะไรเลยต่อใคร ไม่เกิดการถกเถียงและวิเคราะห์อย่างเป็นเหตุผลไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาค่ะ

5.อย่างน้อยโพสต์ดราม่าก็คิดไว้ว่าทำให้คุณรู้ว่าคนแต่ละคนคิดยังไงและเลือกข้างไหนหรือว่ามีจุดยืนยังไง ดังนั้นเราจะไม่เคยห้ามให้มันเกิดดราม่าถามว่าเรากลัวไหมก็กลัวแต่ไม่ห้ามค่ะปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติถ้ามันจะเกิดมันก็เกิด

6.เวลาเขียนอะไรไปมันก็จะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยคนที่เห็นด้วยก็จะเขียนเชียร์คนที่ไม่เห็นด้วยก็จะโจมตีเพราะฉะนั้นเป็นเรื่องปกติมากๆที่จะเกิดดราม่าเพราะว่ามันจะมีสองฝ่ายชัดเจน

7.คุยกันด้วยเหตุผล อย่าใช้อารมณ์นะคะ

8.เราเลือกที่จะจบที่ตัวเราค่ะโดยการแสดงความคิดเห็นออกไปแล้วจบที่ตรงนั้นและไม่ไปตอบคนที่โจมตีหรือไม่ไปตอบคนที่เห็นด้วย

9.ปิดช่องคอมเม้นต์ให้หมดค่ะในเว็บไซต์ที่เราปิดเพราะว่าเราไม่อยากให้เว็บเป็นที่ที่คนมาเถียงกันแล้วกลายเป็นสนามรบแต่เราขอใช้เว็บไซต์ในการสื่อสารความคิดของเราเฉยเฉย

10.ถ้าฟังคนอื่นเราจะฟังคนที่กล้ามาโต้ตอบกับเราตรงตรงในที่ของเราอย่างสุภาพชนค่ะ นอกนั้นเราถือว่านอกเหนือจากการควบคุมค่ะ

The post 10 วิธีป้องกันและจัดการดรามาด้วยตนเอง appeared first on ILLUSTCOURSE-คอร์สเรียนวาดรูป,วาดภาพประกอบ,เรียนวาดการ์ตูน,เรียนสีน้ำและรวบรวมความรู้สำหรับผู้สนใจในการวาดภาพประกอบ,digital painting,character design.



from WordPress https://ift.tt/2oqwtSQ
via IFTTT

วันพุธ, สิงหาคม 29, 2561

‘งานสนุก’ กับ ‘งานสวย’

สำหรับเราจะมีงานสองประเภทที่เราตามดูคืองานสนุกกับงานสวย งานสวยค่ะงานสวยเฉยเฉยแต่งานสนุกคืองานที่ดูแล้วเราสนุกไปด้วยเรารู้สึกถึงอารมณ์ที่มีอยู่ในภาพ ถ้าถามว่างานใครดูแล้วสนุกแล้วเป็นงานคาแรกเตอร์เฉยเฉยด้วยเราคิดว่าคนนี้ค่ะ Maggi เป็นงานดูแล้วสนุก และถึงแม้ว่าเป็นงานคาแรกเตอร์แต่มันดูมีแมสเสจเบื้องหลังบางอย่างในบางรูป

เพราะว่าไม่รู้ว่าคนวาดเอา พลังงานมาจากไหนแล้วแต่ละรูปไม่ซ้ำกันเลยชุดหรือองค์ประกอบก็ไม่ซ้ำกันท่าทางก็ไม่ซ้ำแต่บางทีเราก็ดูแล้วรู้สึกว่าเยอะเพราะว่างานเค้าองค์ประกอบเยอะค่ะแต่ก็ไม่เบื่อนะก็ดูได้เรื่อยเรื่อยเป็นคนเดียวที่เรารู้สึกว่าวาดคาแรกเตอร์อย่างเดียวก็ดูสวยได้โดยไม่ต้องพึ่งเทคนิคการเพ้นท์มากแต่เค้าเป๊ะอะค่ะแล้วเค้าก็วาดเส้นสวยมากๆอยู่แล้ว

น่าสนุกสำหรับเราคืองานที่มีความไดนามิคสูงคือไม่รู้เลยว่ารูปต่อไปจะเป็นรูปอะไร อย่างงานซาคิมิยังเดาได้ว่ามันต้องเป็นแนวนี้แหล่ะแต่งานสนุกคือเราไม่รู้เลยว่างานของเค้าจะออกมาเป็นรูปแบบไหน

มีน้องถามเราว่า ต้องเปลี่ยนตัวเองให้ขายได้ไหม อย่าพยายามเปลี่ยนเพราะว่ามันขายได้ค่ะถ้าเปลี่ยนก็เปลี่ยนเพราะว่าเราอยากจะทำอย่างนั้นถ้างานขายไม่ได้ลองหาอย่างอื่นทำก่อนที่เป็นงานเลี้ยงชีพแล้วค่อยค่อยขยับขยายทำไปค่ะสู้สู้นะคะ

สำหรับเรื่องเพศ ได้เล่าไปในเอนทรี่ที่แล้วแล้ว มันเป็นงานที่ขายได้ ได้ผลนะคะแต่มันฉาบฉวยมากๆคือมันไม่ได้อยู่นานสำหรับเราเราคิดว่ายังงั้นนะแต่ว่าคนอื่นจะคิดว่ายังไงเราไม่รู้เหมือนกันแต่เรื่องเพศเรามองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์เรารู้สึกว่ามันมีวิธีที่จะเล่าโดยที่ไม่ทำให้ภาพนั้นดูหื่นเกินไป

แต่งานที่ดูสนุกจะเป็นงานที่ถึกหรือไม่ก็ได้
https://888maggi888.tumblr.com/

คนนี้ George Kamitani
จริงๆแล้วคนนี้คือไอดอล เรื่องสีของเรานะคะเพราะรู้สึกว่าคนนี้ลงสีได้ชุ่ม ฉ่ำน้ำ สีสด และภาพดูมีเนื้อหามากๆทั้งที่วาดคาแรกเตอร์อย่างเดียวแต่ว่ามันมีองค์ประกอบเล็กๆที่ทำให้ภาพมันสมบูรณ์ในตัว. คือชอบมากๆเค้าเป๊ะดี น่าจะเป๊ะเรื่องพื้นฐานอยู่พอสมควรเลยคือเก่งเรื่องอนาโตมีแสงสีอะไรพวกเนี่ย ฝึกกันต่อไป

The post ‘งานสนุก’ กับ ‘งานสวย’ appeared first on ILLUSTCOURSE-คอร์สเรียนวาดรูป,วาดภาพประกอบ,เรียนวาดการ์ตูน,เรียนสีน้ำและรวบรวมความรู้สำหรับผู้สนใจในการวาดภาพประกอบ,digital painting,character design.



from WordPress https://ift.tt/2PdUd7W
via IFTTT

เรื่องเพศ เรื่องเรท ที่นักวาดปฏิเสธไม่ได้ เล่ายังไงให้ฉลาด

Nude ยังไงน่าค้นหา?มาดูกัน

รูปนี้เป็นรูปที่เรารู้สึกว่ามันมีเสน่ห์มากๆเป็นรูปประกอบของ Bladerunner2049 James jean เป็นคนวาดซึ่งจริงๆแล้วมันก็เป็นภาพนู้ด แต่ว่าระหว่างผู้หญิงที่เปิดหมดอ้าขาหากล้อง กับผู้หญิงที่อยู่ในรูปนี้เรารู้สึกว่ารูปนี้เซ็กซี่มากๆโดยไม่ต้องทำให้มันเกินขีด

ใช่ค่ะมนุษย์ทุกคนล้วนมีความต้องการทางด้านนั้นแต่เราไม่จำเป็นจะต้องเอ็กซ์เพรสออกมาหรือถ้าจะเอ็กซ์เพรสออกมามันมีวิธีที่จะเอ็กซ์เพรสออกมาโดยที่ไม่ทำให้ภาพนั้นดูแล้วเป็นการหมกมุ่นมากกว่าหรือมันมีวิธีเล่าเรื่องที่ทำให้ภาพนั้นดูแล้วเป็นการเล่ามากกว่าที่จะเป็นภาพหื่นภาพหนึ่ง

หลักเกณฑ์ง่ายง่ายสำหรับเราว่างานที่ควรจะทำคืองานอะไรก็คือเราคิดว่าถ้าเรามีลูกเราอยากยื่นงานเราให้ลูกดูไหมหรือจะปิดไว้เป็นความลับตลอดไป ว่าแม่ของเค้าวาดรูปแบบนี้เราไม่ได้คิดว่าเราจะต้องเอ็กซ์เพรสตัวตนทุกอย่างออกไป

ถามว่าเคยอ่านไหมการ์ตูนโป๊อะไรพวกเนี่ยมันก็ต้องเคยอ่านอยู่แล้วโตมาป่านนี้แต่อ่านแล้วแล้วยังไงต่อ ? ดูมากๆก็เบื่อมันมีฉากซ้ำๆกันแค่เปลี่ยนมุม ตรงกันข้ามการ์ตูนที่มันมีฉากเรทแต่ว่ามันมีเนื้อหาที่ดีที่มีการเล่าเรื่องเราก็อ่านนะสมัยก่อนแต่สมัยนี้ก็ไม่อ่านเพราะว่าเรารู้สึกว่าการ์ตูนไม่ใช่สื่อที่เข้าถึงเราได้ในตอนนี้เฉยเฉยมันเหมือนเนื้อเรื่องในการ์ตูนมันเบาไปสำหรับเราแล้วก็เลยจะดูหนังมากกว่า

เราก็แค่คิดว่าถ้าสมมุติเรามีลูกสักคนแล้วเค้าต้องการจะดูภาพของเราเราจะยินดีที่จะยืนภาพของเราให้เขาดูหรือเปล่าในอนาคตแค่นั้นเอง

ตัวอย่างของงานที่พูดเรื่องเพศได้ชัดเจนตรงไปตรงมาแต่ไม่หื่น โฆษณารณรงค์การใช้ถุงยางอนามัยของเจมส์จีน

งานนี้ที่สื่อถึงเพศตรงตรงแต่ดูไม่อนาจารเลยทั้งทั้งที่มีเห็นกันจะจะชัดชัดขนาดนี้แต่ดูแล้วมันเป็นเหมือนการตีความของเค้าเราไม่รู้นะว่าคนอื่นจะมองงานนี้ว่ายังไง แต่เรามองว่ามันยากมากที่จะทำงานแบบนี้แล้วตีความออกมาได้ขนาดนี้เจ๋งมากจริงๆค่ะ ทั้งการเล่าเรื่องการสื่อความและเรนเด้อออกมาได้สมบูรณ์ James jean เจ้าเก่าค่ะ เป็นนักวาดที่เราชอบมากคนหนึ่ง

Clever print ad and it’s tell sexual story without scandalized ~ ใครที่อยากจะศึกษาวิธีเล่าเรื่องให้เก่งเราคิดว่าไม่มีทางไหนที่ดีไปกว่าการศึกษาโฆษณาอีกแล้วค่ะ

เพราะว่าโฆษณาเป็นการเล่าเรื่องที่โคตรตรงแต่มีกิมมิกอันนี้เป็นโฆษณาดูเรกซ์ ซึ่งพูดเรื่องเพศตรงตรงแต่ดูแล้วไม่ได้มีความหื่นอยู่ในรูปเลยมันอยู่ที่ว่าเราอยากจะเล่าเรื่องหรือเปล่าหรือว่าอยากจะหื่น ถ้าหื่นก็หื่นในที่ที่ถูกต้องค่ะ จะทำอะไรก็ทำให้ถูกต้องทำให้ถึง 🙂 จำไว้ค่ะ คนวาดก็เหมือนผกก.อยากทำหนังเอ็กซ์ทำหนังอาร์ทหรือทำหนังอาร์เลือกได้ค่ะ

The post เรื่องเพศ เรื่องเรท ที่นักวาดปฏิเสธไม่ได้ เล่ายังไงให้ฉลาด appeared first on ILLUSTCOURSE-คอร์สเรียนวาดรูป,วาดภาพประกอบ,เรียนวาดการ์ตูน,เรียนสีน้ำและรวบรวมความรู้สำหรับผู้สนใจในการวาดภาพประกอบ,digital painting,character design.



from WordPress https://ift.tt/2N0MH30
via IFTTT

คุณเลือกได้

กลัวดรามา แต่อยากพูด ขออภัยแฟนคลับด้วยขอพูดถึงงานซาคิมิ นิดนึงนะคะ จริงๆเราก็ว่าเขาเก่ง ไม่ได้ว่าอะไร แรกๆก็ชอบงานเขาเหมือนกัน งานเขาเป็นคนเดียวที่ลงสีเทคนิคซ้ำๆติดๆกันแล้วออกมาเยอะ แต่ดูไม่ได้น่าเบื่อมาก แต่หลังๆเราเริ่มไม่ชอบงานเค้าอย่างไม่มีสาเหตุ ไม่รู้ทำไม (แต่บางรูปก็ชอบนะ) น่าจะเป็นเพราะเคยชอบมาก แล้วผิดหวังในตัวเค้าทีหลังก็เป็นได้ แต่ก็ยังตามอยู่ เพราะบางรูปก็ชอบ

เรารู้สึกว่า เขามี Agenda บางอย่างที่เยาวชนยุคใหม่อยากเป็น คือรวย จากการวาดภาพ แต่สำหรับเราที่ หลายๆคนว่า กินอุดมการณ์เป็นอาหาร เราไม่ได้อิจฉาที่เขารวย ได้เงินเดือนละสองล้านจากการวาดภาพ ใน Patreon

แต่เรารู้สึกว่า งานเขาไม่มีอะไรจะเล่าเท่าไร นอกจากคาแรคเตอร์เรนเดอร์ ซึ่งงานแบบนี้ เราดูมากๆแล้วเหมือนดูผู้หญิงสวยๆ ภาพนางแบบสวยๆ ที่ไม่มีสตอรี่ ดูมากๆแล้วมันเลี่ยนเหมือนกัน ขออภัยแฟนคลับอีกครั้งด้วยค่ะ ที่ต้องพูดตรงๆ แต่ถ้าเลยสตอรี่ไป มันคือองค์ประกอบ มันคือแนวที่เซอร์เรียลไปอีกขั้นนึง แต่จุดนี้เราก็ไม่เห็นในงานซาคิมิค่ะ

นอกจากนี้ เราไม่ชอบ ที่เขาวาด18+ นี่คือผิดหวังมากจริงๆนะ อันนี้คือเหตุผลส่วนตัวละนะ ….ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ มันเป็นสิทธิ์ของเขา แล้วก็ไม่ต้องเปลืองตัวเหมือนดาราด้วย อันนี้วาดเอา สร้างสรรค์เอา แต่ในความคิดเรา เป็นเรา เราจะไม่ทำ แค่นั้นเอง นานาจิตตังนะคะ ขอพูดตรงๆแล้วกันนะ อ้อ ไม่ได้ว่าคนทำ 18+ นะคะ เพียงแต่วิธีการทำของเขา มันเน้นขายทางเพศเด่นชัด ตั้งแต่วิธีการเซนเซอร์เลยด้วยซ้ำ

เราคิดว่าการวาดโชว์นม ก้น ไม่ผิด แต่มันมีวิธี จะทำให้มันสวยงามและไม่หื่นได้ค่ะ เหมือนทำหนังอะ

คุณจะทำหนังเอ็กซ์ หรือ คุณจะทำหนังอาร์ท หรือหนังอาร์

ไม่ผิดค่ะ คนเรามีสิทธิ์เลือก แค่เราไม่ชอบวิธีการเขา ไม่ได้หมายความว่า เขาทำผิดนะคะ งานเขาสวยจริง เราก็บอกสวย

เช่น

รูปนี้ชอบนะคะ สวยดี

https://ift.tt/2LCFlhc

The post คุณเลือกได้ appeared first on ILLUSTCOURSE-คอร์สเรียนวาดรูป,วาดภาพประกอบ,เรียนวาดการ์ตูน,เรียนสีน้ำและรวบรวมความรู้สำหรับผู้สนใจในการวาดภาพประกอบ,digital painting,character design.



from WordPress https://ift.tt/2wkScQw
via IFTTT

วันอังคาร, สิงหาคม 28, 2561

‘เนื้อเรื่อง’สิ่งที่สำคัญต่อภาพมาก

การเขียนภาพถ้าภาพไม่มีเรื่องเบื้องหลังมันก็เป็นแค่ภาพธรรมดาทั่วไปที่เราเห็นกันได้วันนี้เราจะมาดูตัวอย่างงานเรื่องเบื้องหลังภาพค่ะ

เนื้อเรื่องเบื้องหลังภาพนี้’โทรจิต’ค่ะ

เลยชื่อภาพว่า’โลกที่ไร้เสียง’หมายความว่าไม่จำเป็นต้องคุยกันด้วยเสียง

ถ้ามีพลังจิตมีโทรจิตสามารถติดต่อกับคนที่คุณรักได้หรือแอบรักได้คุณจะบอกเขาว่าอะไรคะ?

รูปนี้เขียนขึ้นมาด้วยความคิดที่ว่าเฮ้ยอยากมีพลังจิตอยากคุยกับคนที่เรารักได้เรื่องมันคงไม่เป็นแบบนี้อะไรแบบเนี่ย 555 แต่ไม่แน่นะมันอาจจะเหมือนเดิมก็ได้ เราแค่คิดว่าถ้าเรามีโทรจิตอาจจะไม่ต้องทะเลาะกันก็ได้นะอะไรแบบนี้เรื่องมันก็คงจะดีขึ้น. เพราะต่างฝ่ายต่างรู้ความคิดของกันและกันอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องพูดอะไรที่มันตรงข้ามกับความรู้สึกออกมาอะไรแบบนี้เพราะว่าคำพูดมันจะทำให้เราเจ็บปวดเปล่าๆ

อันนี้เนี่ยมันก็เลยกำเนิดตัวละครขึ้นมาสองตัวก็คือไกอา และ อิควินอกซ์ ซึ่งจริงๆแล้วสองคนนี้สามารถสื่อสารผ่านกันได้ทางจิตตามในเรื่องนิยาย ที่เราเขียน

บางทีเราก็อินนะในระหว่างที่เขียนเรื่องเราก็ลองจินตนาการดู. แล้วเราก็ลองทำดูจริงๆก็คือลองคุยแล้วดูซิว่ามีเสียงตอบกลับมาไหมมันอาจจะเป็นเสียงจิตใต้สำนึกเราก็ได้แต่ว่ามันมีเสียงตอบกลับมาจริงๆ

ลักษณะคล้ายคุยกับแชทกันแต่มันไม่มีเสียงเลยเอาประสบการณ์ไปเขียนนิยาย

แล้วเรารู้สึกว่าการที่มีพลังจิตมันเป็นเรื่องที่สุดยอดมากเพราะว่าการเทเลพาทีเท่ากับว่าเราร่วมรู้ความคิดของคนอื่นของคนที่เราชอบอยู่ด้วยแบบนี้เค้าก็โกหกเราไม่ได้เลยสิ 555

สิ่งที่’ตาเห็น’หรือสิ่งที่’ใจเห็น’

ขอพูดถึงรูปนี้นิด เพื่อนเรามาบ้านค่ะแล้วเพื่อนก็บอกว่าให้เราวาดหน้าเค้าให้ทีอยากรู้ว่าเขาจะหน้าตาเป็นยังไงเวลาเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเราบอกได้เลยว่าเราว่าไม่เหมือนเพราะว่าเราใช้ใจไม่ใช่ใช้ตาในการมองเพื่อนเราสวยงามเสมอในความทรงจำของเรา

เพื่อนเลยบอกเฮ้ยไม่เหมือนเลยนี่มันสวยเกินความเป็นจริง

ใช่ถ้าใช้ตามองมันก็จะไม่เหมือน

บางทีเรามัวแต่จะโฟกัสว่า

เฮ้ยต้องวาดให้เหมือนต้องวาดให้เป๊ะแล้วยังไงเหรอวาดเหมือนแล้วยังไงต่อใช้กล้องถ่ายรูปก็ได้ป่ะ?

อองตวนประพันธ์เอาไว้ในเจ้าชายน้อยบอกว่า

‘สิ่งสำคัญอาจไม่เห็นได้ด้วยตา’

แต่ทั้งทั้งที่มนุษย์มีหัวใจต่างจากเครื่องจักรแต่พยายามวาดให้เหมือนเครื่องจักรทำไม. ไม่ได้โจมตีนะแต่เป็นคำถามเฉยเฉยประโยคคำถามค่ะ

ถ้าใครมาเรียนกับพี่พี่บอกเลยว่าพี่ไม่สอนวาดเหมือนแต่พี่สอนวาดรูปไม่เหมือน

Take off your mask and be real

เราทำงานศิลปะบางทีเราก็คิดนะว่าเราเป็นตัวเองหรือเป็นคนอื่นอยู่กันแน่. โดยเฉพาะเวลาทำงานจ้างเมื่อก่อนรู้สึกเหมือนแบบไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเลยซึ่งมันก็ยากเพราะว่าจะบ่นได้ยังไงในเมื่อลูกค้าต้องการให้งานของเราทำเงินให้เขา ในเมื่อโจทย์ของงานคือขายได้เราก็ต้องเปลี่ยนตัวเองให้งานมันขายได้จริงๆบางทีก็รู้สึกว่าทำงานอื่นแล้ววาดเล่นมันก็ดีเหมือนกันนะ

หรือว่าลูกค้าอาจอยากให้ตอบโจทย์ในงานอื่นๆเพราะฉะนั้นการทำงานบางทีมันก็ไม่ได้เป็นตัวเองทั้งหมด 100%หรอกมันก็บาลานซ์บาลานซ์กันไป

บางทีเราก็คิดว่าการเป็นตัวเองแล้วมันไม่ได้เปรี้ยงมากมันดีไหมการเป็นคนอื่นเหมือนเราใส่หน้ากากสุดท้ายแล้วการเป็นคนอื่นการฝืนมันไม่สบายมันก็ต้องถอดออกแล้วก็เป็นตัวเองอยู่ดีดังนั้นเราจึงเลือกที่จะเป็นตัวเองวันนี้แล้วรอวันเบ่งบานของตัวเอง ให้คนชอบงานเราเพราะเราเป็นเราไม่ใช่เพราะเราใส่หน้ากากไม่ใช่เพราะว่าเราพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นคนอื่นไปแม้หน้ากากนั้นจะสวยงามแค่ไหนแต่ถ้ามันไม่ใช่ตัวเรามันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะใส่เอาไว้ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่รักเราเค้าจะเห็นเราแบบที่เราเป็นเราไม่ใช่หน้ากากของเรา

The post ‘เนื้อเรื่อง’สิ่งที่สำคัญต่อภาพมาก appeared first on ILLUSTCOURSE-คอร์สเรียนวาดรูป,วาดภาพประกอบ,เรียนวาดการ์ตูน,เรียนสีน้ำและรวบรวมความรู้สำหรับผู้สนใจในการวาดภาพประกอบ,digital painting,character design.



from WordPress https://ift.tt/2BTgeXR
via IFTTT

ทำไมคนวาดเก่งมากๆในวงการไม่ค่อยมาสอน

ขอตอบยาวนะคะ กรีด เป็นแมวครับ

ทำไมคนวาดเก่งมากๆในวงการไม่ค่อยมาสอน

คือการสอนนะค่ะมันต่างจากการวาดมากนะพอดีไปอ่านคอมเม้นต์ของน้องกรีดเลยอยากเขียน Status นี้เอาไว้เพื่อบอกตัวเองบางคนบอกว่าหรืออาจสงสัยว่าเออทำไมคนวาดเก่งมากๆเค้าไม่มาสอนกัน

บางทีคนที่ทำเรื่องนั้นเก่งเก่งอาจจะไม่ใช่คนสอนเก่งก็ได้ค่ะตรงกันข้ามคนสอนเก่งอาจจะไม่ได้คนที่เก่งมากระดับท็อปของวงการแต่สอนเป็นก็ถือว่าเป็นครูที่ดีได้

แล้วคนที่วาดเก่งด้วยสอนเก่งด้วยมีไหมมันก็มีค่ะความเก่งมัน subjective ถ้าคนนี้เรียนแล้วเคมีเข้ากับเราเขาก็จะมองว่าเราสอนเก่งแต่ถ้าคนนี้มาเรียนแล้วเค้าไม่ได้ต้องการในสิ่งที่เราอยากจะสอนหรือเค้าไม่ได้ต้องการในสิ่งที่เราอยากจะเผยแพร่ออกไปอันนั้นมันก็จะทำให้เขารู้สึกว่าเราสอนไม่เก่งแล้วคนที่ว่าเก่งเก่งเนี่ยส่วนมากก็จะอยากทำงานวาดเป็นอาชีพเพราะไม่ต้องยุ่งกับคนแล้วก็ไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับใครเท่าไหร่เป็นงานที่ทำเพื่อตัวเองค่ะ

แต่เราบอกว่าครูที่ดีต้องมีทั้งสองอย่างค่ะมันเหมือนครูสอนว่ายน้ำแต่ตัวเองไม่ว่ายอ่ะ ยืนอ่านทฤษฎีอยู่บนบกมันก็ได้แต่ทฤษฎี

จากประสบการณ์สอนเก้าปีพบนักเรียนมาหลากหลายรูปแบบพบว่าการที่เราจะสอนให้เขาวาดเป็นได้นอกจาก จะสอนพวกพื้นฐานสำหรับเราจะได้แนวคิดมากเพราะว่าเราจะเน้นหนักคิดก่อนเลยเนื่องจากแนวคิดเป็นพื้นฐานของทุกอย่างถ้าแนวคิดผิดทุกอย่างก็จะพังทลาย

ส่วนพวกนักวาดเก่งเก่งเค้าเหมือนนักกีฬาว่ายน้ำโอลิมปิกบางคนก็ไม่ได้อยากจะสอนคนให้ว่ายเป็นมาแข่งกับตัวเอง. บางคนที่ไม่สอนเพราะว่าไม่มีทักษะการสอนบางคนเค้าพอใจที่จะอยู่ตรงนั้นอยู่แล้วค่ะส่วนคนที่สอนก็เหมือน นักกีฬาที่รีไทร์แล้วมาเป็นโค้ช แต่บางคนอาจจะว่ายน้ำอยู่หรือบางคนอาจจะเลิกแล้วแต่ แต่สำหรับเราครูที่ดีไม่ใช่ครูที่ท่องทฤษฎีอยู่บนบกอ่านทฤษฎีว่าเออการว่ายน้ำจะต้องเอาแขนข้างนี้จ้วงแบบนี้แล้วไม่ลงไปว่ายเองมันก็ไม่มีประโยชน์

สำหรับเรากลุ่มนักเรียนที่เจอมากๆเลยก็คือกลุ่มนักเรียนที่อยากวาดรูปเป็นจากไม่เป็นเลยกลุ่มนี้เค้าจะมีความมั่นใจไม่ค่อยมากในการวาดรูปเค้าจะรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งแล้วก็เริ่มต้นช้ากว่าคนอื่นอะไรแบบนี้

ซึ่งจริงๆแล้วการจะสอนนักเรียนกลุ่มนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆสำหรับเราแล้วเราก็รู้สึกสนุกมากในการสอนนักเรียนเพราะว่าเค้ามาเหมือนแก้วเปล่าที่เราจะใส่อะไรลงไปก็ได้แล้วเขาจะพัฒนาในแนวทางที่เราสอนเหมือนกับเราเริ่มต้นปลูกตั้งแต่ต้นกล้าเลยนักเรียนกลุ่มนี้เค้าจะไม่สนใจในการวาดพื้นฐานเลยหมายถึงการวาดพวกnude ,life drawing เหตุผลคือเวลาวาดเนี่ยเค้าอยากมีความสุขในการเรียนเค้าอยากวาดแล้วสนุก เค้าอยากมาถึงแล้ววาดเป็นเลยโดยที่เหมือนแบบเห็นผลทันทีซึ่งบางคนอาจจะบอกว่าเฮ้ยมันจะเป็นไปได้ยังไงการลัดพื้นฐานจากประสบการณ์เรามันเป็นไปได้ค่ะ

ดังนั้นการไปอัดอะไรมากๆให้เขามันเหมือนกับทำให้เค้าเครียดมากขึ้นมันก็จะไม่สนุกในการวาดในการเรียนอีกต่อไปแล้วอาจจะทำให้เขาเลิกวาดรูป เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญในการสอนนักเรียนที่วาดไม่เป็นคือสภาพจิตใจค่ะจะต้องสอนตั้งแต่ตอนปรับสภาพจิตใจเลยว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้เริ่มช้ากว่าใครทุกคนมีจุดเริ่มต้นและทุกคนมีวันที่วาดไม่เก่ง กันทุกคน

ถ้าคุณเริ่มจากศูนย์แล้วคุณต้องการจะเก่งให้เวลาตัวเองซักสามปีฝึกอย่างน้อย 4 ชั่วโมงสามถึง 4 ชั่วโมงต่อวันมีวินัยกับตัวเองฝึกโดยวิธีที่ถูกต้องแล้วจะเก่งขึ้นมาค่ะ แต่สิ่งที่สำคัญคือคุณต้องมีเป้าหมาย ต้องมีเป้าหมายว่าจะเก่งไปเพื่ออะไรเก่งทำไมทำอะไรอะไรแบบนี้และเป้าหมายนั้นจะต้องวัดผลได้

The post ทำไมคนวาดเก่งมากๆในวงการไม่ค่อยมาสอน appeared first on ILLUSTCOURSE-คอร์สเรียนวาดรูป,วาดภาพประกอบ,เรียนวาดการ์ตูน,เรียนสีน้ำและรวบรวมความรู้สำหรับผู้สนใจในการวาดภาพประกอบ,digital painting,character design.



from WordPress https://ift.tt/2PLln7x
via IFTTT

วันศุกร์, สิงหาคม 24, 2561

วิธีการหาแรงบันดาลใจแบบรวดเร็ว

มีน้องบิงค์มาถามเราว่าจะหาแรงบันดาลใจในการวาดรูปยังไงขอตอบตรงนี้เลยนะคะในการหาแรงบันดาลใจในการวาดรูปแต่ละคนเนี่ยมีวิธีการหาไม่เหมือนกันค่ะ

สิ่งที่สำคัญคือไม่มีวิธีการที่ถูกผิดมีแต่วิธีการที่ใช่หรือไม่ใช่สำหรับคุณคุณต้องลองค้นพบตัวเองเหมือนกับการหัดอะไรซักอย่างจนถึงจุดหนึ่งคุณจะค้นพบว่าแรงบันดาลใจมันเป็นสิ่งที่สามารถจุดได้ด้วยตัวเอง. ส่วนที่ยากคือจะต้องรู้ว่าเชื้อไฟนั้นอยู่ตรงไหนแล้วอะไรที่ทำให้เราจุดไฟติด. ทีนี้บางคน. ไฟติดแล้วแต่ดันไปฟังคนอื่นมากไฟมอดอีกมันก็ไม่ดีนะ

คุณต้องหาให้พบว่าปุ่มของคุณอยู่ตรงไหนตรงไหนกดไปแล้วจะทำให้เกิดงานตรงไหนกดไปแล้วจะทำให้ไม่เกิดงานบางทีไปฟังคำพูดของคนอื่นมากก็ไขว้เขวแล้วก็ไม่ productive ความผิดพลาดของคนส่วนใหญ่คือไม่เชื่อในตัวเองแล้วพยายามเชื่อในสิ่งที่คนอื่นบอกเราถ้าคุณเชื่อมั่นในตัวเองเชื่อมั่นในผลงานตัวเองคุณจะทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ

ถ้าคุณมีสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจแล้วก็ขยายมันออกมาค่ะ แต่ละคนไม่จำเป็นต้องมี แรงบันดาลใจเหมือนกัน สำหรับเราเราก็มีปุ่มที่ว่านั้นเช่นกันแล้วกดทีไรก็จะมีทั้งความเศร้าความสุข แล้วแต่ว่าจะไปกดเบอร์ไหน

ทีนี้ก็จะมีน้องบอกว่าอยากวาดรูปแนวป๊อบป๊อบอยากให้ขายได้ขายดีจริงๆมันก็ดีค่ะการขายได้ขายดีนะ ก็อยากได้กันทุกคนแหละแต่ลองคิดดูก่อนไหมว่าแทนที่จะว่าภาพที่เหมือนกันกับทุกคนเหมือนกันกับใครลองฟังแมสเสจที่ตัวเองอยากจะเขียนแล้วเขียนออกมาเป็นภาพดู. อย่าพึ่งคิดว่างานนี้จะต้องขายได้ให้คิดว่าพยายามจะสื่ออย่างที่เราอยากจะสื่อก่อนแล้วกันขายได้มันจะตามมาหลังจากนั้นเราต้องมีความเป็น authenticity สิ่งที่เราพูดจะต้องเป็นของจริงที่เราคิดจริงๆไม่เช่นนั้นมันก็เหมือนกับภาพของคนอื่นที่เราสามารถเห็นได้ทั่วไป

งานใหญ่ใหญ่ที่มาจ้างพี่งานที่เป็นงานสำคัญในชีวิตโดยส่วนมากเค้ามาจ้างเพราะว่าพี่เป็นพี่พี่เป็นตัวเองไม่ได้เป็นเหมือนใครและไม่ได้พยายามจะทำให้มันป๊อบ. อย่างงานล่าสุดหนังสั้นของน้องพลอยชมพูส่วนอนิเมชั่นเค้ามาจ้างเพราะว่าชอบภาพดูเก่าเก่าดูเรโทร

ถ้าคุณเป็นตัวเองแล้วมันขายไม่ได้ลองถามตัวเองว่าอยู่ถูกที่ถูกทางหรือเปล่าอยู่โซเชี่ยลถูกอันหรือเปล่าใช้โซเชียลเป็นหรือเปล่า บางทีการได้งานดีดีเราไม่จำเป็นต้องได้ไลค์เยอะ เพราะว่าบางคนเค้าไม่ได้มองตรงนั้นถ้าจะไลค์เยอะส่วนมากเน้นขายเอ็นยูเซอร์

อยากให้มองไปที่ไกลๆอยากให้มองไปที่การสื่อสารอยากให้มองไปที่แมสเสจอยากให้มองไปที่สิ่งที่ต้องการจะสื่อมากกว่าคิดว่ากูวาดอะไรดีว่ะกูวาดแฟนอาร์ตเรื่องอะไรดี สุดท้ายแล้วคุณก็จะไล่ตามความเป็นคนอื่นแล้วไม่มองภายในตัวเองเลยว่าตัวเองมีของดีอะไร ถ้าวาดแฟนอาร์ทมันก็ไม่ผิดแต่ว่าลองถามตัวเองดูว่าอินกับเรื่องนั้นจิงหรือเปล่าหรือว่าแค่ตามกระแส แล้วถ้าตามกระแสแล้วขายได้จริงแบบนั้นโอเคหรือเปล่าหรือว่าไม่โอเคลองถามตัวเองลึกลึกว่าจริงๆแล้วอยากได้แบบไหนเพราะว่าช้อยส์ของคนเราไม่เหมือนกันอย่าเอาช้อยส์ของคนอื่นมาจับใช้ของตัวเอง

มันเหมือนคนปลูกต้นมะพร้าวต้นมะม่วงในบ้านก็อยากจะโตเก็บผลกินแล้วถ้าต้นไม้นั้นมันดันยื่นไปบ้านชาวบ้าน มันเหมือนกับเราวาดแฟนอาทตลอดไปสุดท้ายแล้วมันไม่มีอะไรเป็นของตัวเองมันไม่มีอะไรจับต้องเป็นชิ้นเป็นอันได้ วาด Fanart เพื่อสร้างฐานแฟนไม่ผิด แต่สุดท้ายแล้วเพราะต้องกลับมาถามตัวเองว่าที่วาดรูปเพราะอะไรเพราะมีอะไรอยากจะสื่อหรือเปล่าหรือว่าแค่อยากวาดในสิ่งที่อยากวาดไม่มีคำตอบที่ถูกต้องหรือผิดลองถามตัวเองดูค่ะ

The post วิธีการหาแรงบันดาลใจแบบรวดเร็ว appeared first on ILLUSTCOURSE-คอร์สเรียนวาดรูป,วาดภาพประกอบ,เรียนวาดการ์ตูน,เรียนสีน้ำและรวบรวมความรู้สำหรับผู้สนใจในการวาดภาพประกอบ,digital painting,character design.



from WordPress https://ift.tt/2oafDat
via IFTTT

วิธีการหาแรงบันดาลใจแบบรวดเร็ว

มีน้องบิงค์มาถามเราว่าจะหาแรงบันดาลใจในการวาดรูปยังไงขอตอบตรงนี้เลยนะคะในการหาแรงบันดาลใจในการวาดรูปแต่ละคนเนี่ยมีวิธีการหาไม่เหมือนกันค่ะ

สิ่งที่สำคัญคือไม่มีวิธีการที่ถูกผิดมีแต่วิธีการที่ใช่หรือไม่ใช่สำหรับคุณคุณต้องลองค้นพบตัวเองเหมือนกับการหัดอะไรซักอย่างจนถึงจุดหนึ่งคุณจะค้นพบว่าแรงบันดาลใจมันเป็นสิ่งที่สามารถจุดได้ด้วยตัวเอง. ส่วนที่ยากคือจะต้องรู้ว่าเชื้อไฟนั้นอยู่ตรงไหนแล้วอะไรที่ทำให้เราจุดไฟติด. ทีนี้บางคน. ไฟติดแล้วแต่ดันไปฟังคนอื่นมากไฟมอดอีกมันก็ไม่ดีนะ

คุณต้องหาให้พบว่าปุ่มของคุณอยู่ตรงไหนตรงไหนกดไปแล้วจะทำให้เกิดงานตรงไหนกดไปแล้วจะทำให้ไม่เกิดงานบางทีไปฟังคำพูดของคนอื่นมากก็ไขว้เขวแล้วก็ไม่ productive ความผิดพลาดของคนส่วนใหญ่คือไม่เชื่อในตัวเองแล้วพยายามเชื่อในสิ่งที่คนอื่นบอกเราถ้าคุณเชื่อมั่นในตัวเองเชื่อมั่นในผลงานตัวเองคุณจะทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ

ถ้าคุณมีสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจแล้วก็ขยายมันออกมาค่ะ แต่ละคนไม่จำเป็นต้องมี แรงบันดาลใจเหมือนกัน สำหรับเราเราก็มีปุ่มที่ว่านั้นเช่นกันแล้วกดทีไรก็จะมีทั้งความเศร้าความสุข แล้วแต่ว่าจะไปกดเบอร์ไหน

ทีนี้ก็จะมีน้องบอกว่าอยากวาดรูปแนวป๊อบป๊อบอยากให้ขายได้ขายดีจริงๆมันก็ดีค่ะการขายได้ขายดีนะ ก็อยากได้กันทุกคนแหละแต่ลองคิดดูก่อนไหมว่าแทนที่จะว่าภาพที่เหมือนกันกับทุกคนเหมือนกันกับใครลองฟังแมสเสจที่ตัวเองอยากจะเขียนแล้วเขียนออกมาเป็นภาพดู. อย่าพึ่งคิดว่างานนี้จะต้องขายได้ให้คิดว่าพยายามจะสื่ออย่างที่เราอยากจะสื่อก่อนแล้วกันขายได้มันจะตามมาหลังจากนั้นเราต้องมีความเป็น authenticity สิ่งที่เราพูดจะต้องเป็นของจริงที่เราคิดจริงๆไม่เช่นนั้นมันก็เหมือนกับภาพของคนอื่นที่เราสามารถเห็นได้ทั่วไป

งานใหญ่ใหญ่ที่มาจ้างพี่งานที่เป็นงานสำคัญในชีวิตโดยส่วนมากเค้ามาจ้างเพราะว่าพี่เป็นพี่พี่เป็นตัวเองไม่ได้เป็นเหมือนใครและไม่ได้พยายามจะทำให้มันป๊อบ. อย่างงานล่าสุดหนังสั้นของน้องพลอยชมพูส่วนอนิเมชั่นเค้ามาจ้างเพราะว่าชอบภาพดูเก่าเก่าดูเรโทร

ถ้าคุณเป็นตัวเองแล้วมันขายไม่ได้ลองถามตัวเองว่าอยู่ถูกที่ถูกทางหรือเปล่าอยู่โซเชี่ยลถูกอันหรือเปล่าใช้โซเชียลเป็นหรือเปล่า บางทีการได้งานดีดีเราไม่จำเป็นต้องได้ไลค์เยอะ เพราะว่าบางคนเค้าไม่ได้มองตรงนั้นถ้าจะไลค์เยอะส่วนมากเน้นขายเอ็นยูเซอร์

อยากให้มองไปที่ไกลๆอยากให้มองไปที่การสื่อสารอยากให้มองไปที่แมสเสจอยากให้มองไปที่สิ่งที่ต้องการจะสื่อมากกว่าคิดว่ากูวาดอะไรดีว่ะกูวาดแฟนอาร์ตเรื่องอะไรดี สุดท้ายแล้วคุณก็จะไล่ตามความเป็นคนอื่นแล้วไม่มองภายในตัวเองเลยว่าตัวเองมีของดีอะไร ถ้าวาดแฟนอาร์ทมันก็ไม่ผิดแต่ว่าลองถามตัวเองดูว่าอินกับเรื่องนั้นจิงหรือเปล่าหรือว่าแค่ตามกระแส แล้วถ้าตามกระแสแล้วขายได้จริงแบบนั้นโอเคหรือเปล่าหรือว่าไม่โอเคลองถามตัวเองลึกลึกว่าจริงๆแล้วอยากได้แบบไหนเพราะว่าช้อยส์ของคนเราไม่เหมือนกันอย่าเอาช้อยส์ของคนอื่นมาจับใช้ของตัวเอง

มันเหมือนคนปลูกต้นมะพร้าวต้นมะม่วงในบ้านก็อยากจะโตเก็บผลกินแล้วถ้าต้นไม้นั้นมันดันยื่นไปบ้านชาวบ้าน มันเหมือนกับเราวาดแฟนอาทตลอดไปสุดท้ายแล้วมันไม่มีอะไรเป็นของตัวเองมันไม่มีอะไรจับต้องเป็นชิ้นเป็นอันได้ วาด Fanart เพื่อสร้างฐานแฟนไม่ผิด แต่สุดท้ายแล้วเพราะต้องกลับมาถามตัวเองว่าที่วาดรูปเพราะอะไรเพราะมีอะไรอยากจะสื่อหรือเปล่าหรือว่าแค่อยากวาดในสิ่งที่อยากวาดไม่มีคำตอบที่ถูกต้องหรือผิดลองถามตัวเองดูค่ะ

The post วิธีการหาแรงบันดาลใจแบบรวดเร็ว appeared first on ILLUSTCOURSE-คอร์สเรียนวาดรูป,วาดภาพประกอบ,เรียนวาดการ์ตูน,เรียนสีน้ำและรวบรวมความรู้สำหรับผู้สนใจในการวาดภาพประกอบ,digital painting,character design.



from WordPress https://ift.tt/2oafDat
via IFTTT

วันจันทร์, สิงหาคม 20, 2561

illustpod:Wisdomwalk: ep 39:book review เทคนิคการจำแบบกาวตราช้าง


ซื้อหนังสือเล่มนี้มา เทคนิคจำแบบกาวตาช้างติดสนิทไม่มีวันลืมใน 1 นาที เค้าเน้นเรื่องความสำคัญของการทบทวนว่าจริงๆแล้วสมองเราไม่สามารถจำได้ทุกอย่างหรอกแต่สิ่งที่เราจำได้เป็นเพราะว่ามันแปลเป็นความทรงจำระยะยาวเรียบร้อยแล้ว ความทรงจำระยะสั้น มันเหมือนการจุดไม้ขีดซึ่งต้องจุดไม้ขีดหลายครั้ง กว่าจะกลายเป็นเทียนไขหรือความทรงจำระยะยาว

มีเทคนิคการจำเส้นทางเป็นภาพแล้วก็ แปลงสิ่งที่รู้เป็นภาพให้หมดจะได้จำได้ แล้วก็เป็นภาพตลกตลกซึ่งจริงๆแล้วมันก็เป็นเทคนิคที่เราได้รู้จักจากหนังสือเรื่องเรียนเก่งเรื่องกล้วยๆ ของอาดัม คูมาแล้ว และหนังสือเกี่ยวกับการจำทุกเล่มจะเน้นเกี่ยวกับเรื่องนี้เสมอแต่เล่มนี้ เน้นเป็นพิเศษเรื่องของการจำเส้นทางแล้วเอามาเชื่อมโยงกับสิ่งที่เราชอบหรือสิ่งที่เราอยากจะจำในหนังสือ ถึงกระนั้นหนังสือก็ยังอ่านเพลินได้อยู่ นอกจากนี้ยังมีวิธีการเรียนภาษาอังกฤษที่ทำให้เราเพลิดเพลินเค้าบอกว่าเราควรจะฟังหรือดูหนังที่เป็นภาษาอังกฤษแล้วก็ค่อยค่อยย้อนไปดูฉากที่เราสนใจเป็นฉากฉากไปจนกว่าจะทำความเข้าใจกับฉากนั้นได้แล้วก็ พยายามพูดตามหรือชาโดว์อิ้ง

นอกจากนี้เขายังบอกว่าถ้าเราไม่สามารถแปลงความทรงจำเป็นภาพได้ให้พยายามนึกถึงเหตุการณ์ในแต่ละวันแล้วก็พยายามแปลงให้สิ่งที่เราอยากจำกลายเป็นประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด เพราะว่าเราจะจำมันไปกลายเป็นความทรงจำระยะยาวมันเหมือนกับผู้เล่นจะจำได้ดีกว่าคนที่แค่เป็นผู้ดูในสนาม

หนังสือเล่มนี้อ่านง่ายแล้วก็อ่านจบได้ระยะเวลาไม่นาน เหมาะกับทุกคนที่กำลังเตรียมสอบหรือว่ากำลังอ่านหนังสือสอบอยู่หรือต้องการจำได้ดีขึ้นซึ่งหัวใจหลักของหนังสือเล่มนี้จะบอกว่าการทบทวนนั่นเองคือหัวใจของการจำ

อันที่น่าสนใจก็คือเวลาอ่านหนังสือสอบพวกข้อสอบปรนัยเราอ่านหนังสือแบบวงข้อที่ถูกเลยแล้วอ่านทบทวนเลยแล้วเขียนขีดฆ่าข้อที่ผิดแล้วก็แก้ไข อันไหนจำแล้วก็ให้ขีดด้วยปากกาหนาๆ อันไหนยังจำไม่ได้ก็อ่านทบทวนจนกว่าจะจำได้

นอกจากนี้ก็มีการลดปริมาณของข้อมูลเช่นการจำคำศัพท์ 30 คำก็ลดเหลือจำวันละ 10 คำ แบ่งหนังสือข้อสอบออกเป็นส่วนส่วนแล้วก็จำเป็นส่วนส่วนไปไม่ต้องเครียดว่าจะต้องอ่านให้จบภายในทีเดียวแต่ต้องทบทวนแต่ละส่วนให้ได้เยอะที่สุด

พลิกดูหน้าหนังสือโดยการเช็คสารบัญและพยายามอ่านสารบัญก่อนอ่านคำนำและพยายามจำสารบัญให้ได้มันก็จะจำเนื้อหาทั้งหมดของหนังสือได้ นอกจากนี้การเล่าเนื้อหาในหนังสือมันก็ช่วยทำให้จำเนื้อหาได้มากขึ้นมากกว่าเดิมดีมาก ให้คุณอ่านสารบัญก่อนแล้วก็พยายามอ่านทบทวนหลายหลายรอบคุณจะจำและสามารถเชื่อมโยงในแต่ละหัวข้อได้เอง รวมถึงอาจจะใช้ร่างกายร่วมด้วยในการที่จะจำในแต่ละส่วนเช่นอาจจะใช้ส่วนต่างๆของร่างกายมาร่วมจำหรือสถานที่ต่างๆก็ได้

สรุปแล้วเป็นหนังสือที่อ่านดีค่ะอ่านง่าย มีประโยชน์เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยที่กำลังเคร่งเครียดกับการสอบ


Check out this episode!

วันอาทิตย์, สิงหาคม 19, 2561

7 องค์ประกอบ ของการเล่าเรื่องที่ดี

7 องค์ประกอบ ของการเล่าเรื่องที่ดี

1.สมมติฐานกึ่งกลาง(Central premise)

2.คาแรคเตอร์ที่มีสามมิติ ที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา

3.เสปซที่มีขอบเขตหรือเบ้าหลอม

4.ตัวเอกที่มีเควสต์บางอย่าง

5.ฝ่ายตรงข้ามที่จะมาหยุดตัวเอก

6.จุดสูงสุดของทุกสิ่ง ไม่ว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลง

7.และดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด conflict

1. สมมติฐาน

สมมติฐานก็คือจุดของเนื้อเรื่องที่เราต้องการจะสื่อ เช่น “คนเลวสามารถเป็นคนดีได้” หรือ “การช่วยโลกนั้นคุ้มค่ากับความพยายาม” หรือแม้แต่สิ่งที่อาจจะไม่เป็นจริงในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น “ความดีก็เหมือนความเลว” ในขณะที่ผู้อ่านไปจนถึงตอนจบของเนื้อเรื่อง เขาจะได้รับในสิ่งนี้ ในความเป็นจริงแล้ว องค์ประกอบทุกอย่างของเนื้อเรื่องสร้างขึ้นมาเพื่อจุดนี้

ในการที่จะแสดงจุดนี้ออกมา ลองนึกถึงเนื้อเรื่องที่จะพยายามที่จะพูดว่า “ความเลวนั้นไม่ดี” แล้วก็แสดงให้เห็นว่ามีคนเลวที่ทำในสิ่งเลวๆแต่ไม่ได้รับผลตอบแทนอย่างสาสม ณ.จุดนี้มันจะดูผิดพลาดไป และดูโง่ คุณจะรู้สึกยังไงถ้าฝั่งจักรวรรดิชนะในสตาร์วอส์ทั้งสามภาค ถ้าจุดยืนของคุณเกี่ยวกับการชนะของความเลวเหนือความดี ดังนั้นตอนจบของเรื่องความเลวต้องชนะความดีจริงๆ

เนื้อเรื่องหลายๆเรื่องอาจมีหลายส่วนของสมมติฐาน เช่น “พลังอำนาจอันเสื่อมทราม แต่ความดี สามารถแก้ไขการเสื่อมทรามนั้นได้” ในความเป็นจริงแล้ว นี่คือการรวมที่ทำให้หนังสตาร์วอส์นั้นดูแล้วน่าพึงพอใจ

คาแรคเตอร์นั้นมีสมมติฐานของตัวเองเช่นกัน โดยมากแล้วเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเชื่อเกี่ยวกับตัวเอง ถึงแม้ว่านั้นไม่ใข่ความเป็นจริงทั้งหมด มันกำหนดความเชื่อ,ความเชื่อมั่น และความต้องการ ทั้งหมดสามารถรวมได้เป็นหนึ่งหรือสองเสตทเมนต์อย่าง “การทำงานหนักนั้นสำคัญ” หรือ “ฉันพูดความจริงเสมอ” ถ้าคาแรคเตอร์ทำลายสมมติฐานตัวเอง อย่างเช่น ผู้ที่ทำงานหนักจู่ๆก็อู้โดยไม่มีเหตุผล หรือผู้ที่พูดความจริงตลอดเวลาจู่ๆก็โกหก เราจะรู้สึกว่า มีบางอย่างผิดพลาด เพราะเราไมสามารถจับคู่การกระทำของพวกเขากับเนื้อเรื่องที่เขาพยายามจะบอกเราเกี่ยวกับตัวเอง มันอาจจะเป็นอุบาย ถ้าคาแรคเตอร์ถูกเซ็ททางนั้นโดยนักเขียน แล้วก็ทิ้งสมมติฐานนั้นไปยังสิ่งที่ดีกว่า ถ้าไม่อย่างนั้นก็แสดงให้เห็นว่าคาแรคเตอร์นั้นเป็นพวกหลอกตัวเอง

คุณสามารถบอกได้ว่าเนื้อเรื่องนั้นมี สมมติฐานที่ เคลียร์เมื่อคุณสามารถพูดได้ว่าเนื้อเรื่องนั้นเกี่ยวกับอะไรในไม่กี่ประโยค ถ้าคุณไม่สามารถที่จะทำสิ่งนั้นได้ ดังนั้นเนื้อเรื่องของคุณไม่มี สมมติฐานกึ่งกลางเลย และเชื่อเรา เหตุผลที่ทำไมคอมพิวเตอร์เกมส่วนมากเนื้อเรื่องไม่ดี เพราะมัน’ไมมีจุดยืน’

ในการออกแบบเกมนั้น นักพัฒนาเกมได้ต้องการที่จะสร้างความเสมือนจริงให้เข้าสู่จิตใจของตัวผู้เล่น ดังนั้น ผู้เล่นต้องมีจุดยืนในการอยู่ในเกม นอกเหนือไปจาก การเช็คว่ามีวิธีใหม่ๆในการต่อสู้ ดังนั้น เลือกในสิ่งที่คุณต้องการจะบอก แล้วพยายามบอกในทุกทางที่คุณทำได้ตั้งแต่ต้นจบจบ ถ้าคุณไม่มีจุดยืน เกมก็ไม่ควรจะมีเหตุผลในการมีอยู่แต่แรก

2. คาแรคเตอร์

หลังจากที่สมมติฐานได้รับการบ่งชี้แล้ว การออกแบบเนื้อเรื่องได้เข้าสู่การพัฒนาคาแรคเตอร์ที่มีส่วนร่วมและคาแรคเตอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ ที่เราสามารถที่จะแคร์หรือใส่ใจ ,เหยียดหยามหรือเกลียดไปเลย

เราเริ่มต้นด้วยเนื้อเรื่องที่มีคาแรคเตอร์โผล่ขึ้นมาแล้วทำในสิ่งต่างๆ ถ้าเราไม่แคร์ในคาแรคเตอร์ เราก็จะไม่แคร์เลยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับคาแรคเตอร์บ้าง หรือกรณีที่เป็นเกม ก็อาจจะหยุดเล่นไปเลย

หลายๆคนก็เขียนเกี่ยวกับคาแรคเตอร์ที่มีสามมิติ สองมิติ และไม้ประดับที่มีแค่มิติเดียว ทั้งหมดนี้เกี่ยวกับการที่คาแรคเตอร์พัฒนาไปมากน้อยแค่ไหน คาแรคเตอร์หลักต้องพัฒนาไปเท่าที่เวลาและเสปซของเนื้อเรื่องจะอำนวย ในขณะที่คาแรคเตอร์ที่มีสองมิติ หรือ คาแรคเตอร์ที่โผล่มาแค่ฉากเดียวเลือกที่จะเผยเพียงแค่ด้านเดียวของตัวเขา และนี่คือสิง่ที่ผู้อ่านนั้นคาดหวัง ส่วนที่เหลือล่องลอยอยู๋ในฉากหลัง เพื่อจะทำให้ที่นั้นไม่ว่างเปล่าจนเกินไป ถ้าหากพวกเขาทำอะไรที่เป็นที่ผิดสังเกตุ อาจจะทำให้เนื้อเรื่อง ถูกดึงดูดความสนใจไปทางอื่นได้

แล้วอะไรคือการพัฒนาของคาแรคเตอร์

ง่ายๆเลยคือ ผู้อ่านเริ่มต้นที่ความว่างเปล่า และเนื้อเรื่องค่อยๆเผยออกมา ในขณะที่เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับคาแรคเตอร์ และเมื่อเขาเรียนรู้ เขาก็ได้รู้นิสัยของคาแรคเตอร์และนั้นก็คือการพัฒนาคาแรคเตอร์ ถ้าหากทำได้ดี ผู้อ่านจะสามารถเข้าใจได้ว่าคนเหล่านี้คือใคร และพื้นฐานความเข้าใจนี้ ผู้อ่านอาจจะอยากให้คาแรคเตอร์สำเร็จหรือล้มเหลว

การพัฒนาคาแรคเตอร์ในจิตใจของผู้อ่านนั้นมีเทคนิค บางทีอาจจะยากที่สุดในการเขียนเนื้อเรื่องเลยก็ว่าได้ เพราะว่าคาแรคเตอร์สามารถเปิดเผยตัวเอง จากเหตุการณ์ต่างๆที่เราเขียนขึ้น นั้นคือทั้งหมดที่เราต้องทำ ก็คือให้เขาเงียบ,ก้าวร้าว หรือ ช่างคิด หรือโง่ หรืออะไรก็ตาม เมื่อเนื้อเรื่องเผยออกมา ถ้าคาแรคเตอร์ทำตามนิสัยและสิ่งที่เขาต้องทำที่อยู่ภายใต้สมมติฐานเบื้องหลัง เขาจะเผยตัวเองอย่างถูกต้อง และเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น จะไม่มีใครที่โบกมืออย่างขยะแขยงแล้วบอกว่า “เฮ้ย ทำไมนายทำเยี่ยงนี้”

การสม่ำเสมอ เป็นแค่จุดเริ่มเท่านั้น

ถึงแม้ว่าคาแรคเตอร์จะต้องซื่อตรงต่อความเป็นตัวเอง ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องปกติ ถึงจะดูเชื่อได้ หรือดูจริง ในความเป็นจริง ผู้อ่านไม่ต้องการอ่านเรื่องของคนธรรมดา เพราะคนธรรมดามีการเปลี่ยนแปลงไม่มาก คนธรรมดาน่าเบื่อ และไม่ควรที่จะเป็นเนื้อเรื่องใด ยกเว้นจะเป็นคนธรรมดาแล้วค่อยๆเติบโตจากตรงนั้น เมื่อเราเจอลุค สกายวอล์คเกอร์ครั้งแรก เขาดูเหมือนจะเป็นเด็กน่าเบื่อ แต่อดีตของเขาบังคับให้เขาไปสู่เส้นทางของสิ่งที่เขาควรจะเป็นก็คือเจได แต่ถ้าเขายังเป็นเด็กน่าเบื่อเหมือนเดิม พวกเราคงรีบเดินออกจากโรงหนังไปเลย

ปัญหาคลาสสิคของนักเขียนก็คือ การเปิดเผยคาแรคเตอร์ที่อยู่เหนือจริงเหล่านี้ เราต้องการทางที่เลวร้ายที่สุด เพื่อที่จะให้พวกเขาลุกขึ้นมาและบอกโลกเกี่ยวกับตัวเอง แต่ในหนังไซไฟ และเกม ที่เลวร้ายหน่อย เป็นบทพูดคนเดียวที่เปิดเผยตัวเองอย่างไม่มีสาเหตุ ซึ่งมันขัดกับพื้นฐานของมนุษย์ที่จะเปิดใจกับใครก็ได้โดยไม่มีสาเหตุ ไม่มีคาแรคเตอร์ในนิยายที่ควรค่าแก่การเคารพทั้งหลาย เปิดเผยจิตใจของตัวเอง ถ้าเขาไม่ได้รับการกระทำจากสถานการณ์ภายนอกอย่างสมเหตุสมผล

สำหรับคาแรคเตอร์ที่จะกลายเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือจริงๆในจิตใจของผู้ดู เขาต้องพูดผ่านการกระทำของตัวเอง

บทสนทนาไม่สามารถแทนการกระทำได้ บางอย่างเราสามารถคิดได้จากการกระทำของคาแรคเตอร์ ไม่ใช่คำพูด คนเราต้องการที่จะสัมผัสเนื้อเรื่องไม่ใช่จากการที่คาแรคเตอร์บอกว่าเขาทำอย่างนั้นอย่างนี้ โดยไร้ซึ่งเหตุผล

ตัวคาแรคเตอร์นั้นก็จะต้องยิ่งใหญ่กว่าสิ่งที่ตัวเขาเป็น ในขอบเขตที่เป็นไปได้สำหรับมนุษย์(ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะเกี่ยวข้องกับสัตว์ชนิดอื่นก็ใช้หลักการเดียวกัน) สิ่งที่เขาทำ สิ่งที่เขาเป็น จะต้องโดดเด่น ในการเป็นเอกลักษณ์หรือพิเศษเหนือธรรมดา ผู้อ่านจะต้องรู้สึกว่าเขาแตกต่างและไม่สามารถลืมได้

คาแรคเตอร์จะต้องกล้าหาญที่จะทำเควสต์ในจุดไหนก็ตาม คาแรคเตอร์ที่มีความเข้มแข็งเกินไป ไม่สามารถทำให้ผู้อ่านเห็นในสิ่งที่เขาต้องการต่อกรหรือว่ามีความท้าทาย และสิ่งนี้ก็ประยุกต์ใช้ได้ทั้งฮีโร่ และ ฝ่ายตรงข้าม

คาแรคเตอร์ที่ไมเ่ปลี่ยนไปเลยนั้นน่าเบื่อ นอกจากนี้ คาแรคเตอร์ที่เข้มแข็งขึ้น โดยไม่มีเหตุผลที่ดี ก็ไม่สามารถเชื่อได้เช่นกัน คาแรคเตอร์นั้นจะเติบโตขึ้นก็ต่อเมื่อรอดชีวิตจากอันตราย หรือมีการสูญเสียอะไรบางอย่าง ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงไปถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ที่สุดๆเสียก่อน

คาแรคเตอร์ต้องมีเนื้อเรื่องเบื้องหลัง ที่แสดงให้เห็นเซนส์ของจุดกำเนิดบางอย่าง เขาเป็นคนแบบนี้ได้ยังไง ถ้าเรามีเซนส์ของอดีตบางอย่างของเขา นอกจากนี้ เหตุการณ์ในอดีตยังสามารถแสดงให้เห็นว่าคาแรคเตอร์นั้นแสดงพฤติกรรมอย่างไรในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิสัยเลวๆ

คาแรคเตอร์ต้องมีจุดอ่อน หรือ ความหลอนจากอดีต ที่หลอกหลอนพวกเขาระหว่างเควสต์ แม้แต่ซุปเปอร์แมนยังมีจุดอ่อนเป็นคริปโตไนต์

3.เบ้าหลอม

สมมติฐานตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง เบ้าหลอม ตอบคำถาม เกี่ยวกับอะไรจะเกิดขึ้นกับคาแรคเตอร์เหล่านี้

สำหรับเนื้อเรื่องที่มีโอกาสที่จะสร้างจุดยืน มันต้องทำลายรายละเอียดทั้งหมด โฟกัสที่ฉากท้งหมดและกลุ่มของคาแรคเตอร์ที่มีเหตุผลที่จะอยู่ตรงนั้น

มันยากในการที่จะเชื่อถ้าคาแรคเตอร์ที่มีความผิดแผกแสดงตัวออกมา หรือฉากดูไม่สมเหตุสมผล ทำไมเนื้อเรื่องถึงเกิดขึ้นตรงนี้ ทำไมคาแรคเตอร์เหล่านี้ถึงอยู่ที่นี่ ทำไมถึงยังอยู่ และอะไรพิเศษในช่วงเวลานี้ สถานที่ และเนื่อเรื่องที่จะเกิดขึ้น

ถ้าต้องการหลอมเหล็กได้ ความร้อนจะต้องมากพอ เนื้อเรื่องก็เหมือนกันมันต้องมีขอบเขค เนื้อเรื่องที่แล่นไปเรื่อยๆโดยไม่มีจุดที่เผยให้ทุกอย่างออกมา หรือเผยออกมาในสถานการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง จะทำให้ผู้อ่านสับสนได้

จินตนการถึงโลกของสตาร์วอส์ มีเนื้อหาเกี่ยวกับสารคดี เอเลี่ยนอยู่บนโลก บางคนอาจจะบอกว่านี่อาจจะเป็นแบคกราวนด์ที่ดีแต่มันใช้ไม่ได้ มันไม่มีเวลาในการเล่าเรื่องนี้ และที่แย่คือคนอ่านไม่เห็นแล้วว่าอะไรสำคัญ หรืออะไรเป็นแรงขับถ้าเขาไม่ได้เป็นลมล้มพับจากการเบื่อหน่ายในการดู

เนื้อเรื่องที่ดีสามารถจำกัดได้ในหลายอย่างเช่น ช่วงเวลา,ชีวิตในเรือ,เกาะ หรือเมืองเล็กๆจะดีมาก เพราะว่าเรื่องที่มีเสกลใหญ่เกินไปทำให้มีเซ็ทติ้งหรือฉากที่ไม่เกี่ยวข้อง เรื่องบางเรื่องเกิดขึ้นโดยมีจำนวนคนน้อยและเกิดขึ้นในสถานที่เดียว

ขนาดของเบ้าหลอมนั้นไม่สำคัญที่มันจะเป็นเบ้าอย่างไร

4. ตัวเอก

บทบาทของตัวเอกนั้นคือ การที่จะทำให้ผู้ดูนั้น ดูไปจนจบเรื่อง นี่คือเหตุผลที่ทำไมจึงเป็นคาแรคเตอร์ที่สำคัญ ตัวเอกนั้นเห็นได้ชัด เข้าใจได้ชัด เดาได้ถูกและไปในเส้นทางที่ถูกต้องในขณะที่ทุกคนยังคงสับสน

โดยทั่วไปแล้ว คาแรคเตอร์นี้เป็นคนดี แต่ไม่ใช่ดีแบบสากลโลก เราอาจจะรู้สึกว่าเขาเป็นคาแรคเตอร์ที่ไม่น่าเป็นที่ชื่นชอบเอาซะเลย บางครั้ง ตัวเอกก็งงงวย โดยทำในสิ่งที่เป็นความชั่วเหมือนกัน และตัวเอกนั้นมีข้อผิดพลาด และจุดอ่อน พอๆกับการสู้กับเหล่าร้ายเลย แต่อันนี้เป็นการสู้สองทาง คือการต่อสู้กับตัวเอง ซึ่งมันทำให้เวทมนตร์ของการเล่าเรื่องร่ายไปสู่จิตใจผู้อ่าน แล้วทำให้ผู้อ่านนั้นมองเห็นการเดินทางนั้นด้วยตัวเองเสมือนว่าเขาได้เดินทางไปกับนิยายนั้นๆด้วย

มึบางอย่างที่คุณจะต้องคำนึงถึงเวลาคุณเขียนตัวเอกของคุณ

-ตัวเอกจะต้องการจุดมุ่งหมายของการเดินทาง มีเหตุผลที่ดีในการที่จะต้องการจุดหมายนั้น และมันต้องยากที่จะได้มา

-ตัวเอกเริ่มจากการไม่สนใจว่าอะไรอยู่เบื้องหน้า และเรียนรู้ที่จะเติบโตและมีชีวิตอยู่ยาวจนกระทั่งจบการเดินทาง

-ตัวเอกไม่สามารถที่จะอยู่นิ่งได้ หรือทำตัวโยเย หรือ อ่อนแอเกินไป หรือถ้าทำ ก็ทำได้ไม่นาน เพราะว่า คนอ่านต้องการจะเห็นผู้ชนะ และบางคนที่ชนะโดยบังเอิญ หรือไม่พยายาม ก็จะดูว่าเป็นผู้แพ้อยู่ดี

-บางครั้ง ตัวเอกก็คือกลุ่มคนที่เหมือนกัน ที่ทำเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันทแต่โดยปกติมันง่ายกว่าที่จะเซ็ทตัวเอกตัวเดียว และตัวประกอบที่มีความเข้มแข็ง มากกว่าการที่จะทำให้ผู้อ่านสับสนจากการที่มีตัวละครมากกว่าหนึง่ตัว

-ตัวเอกนั้นเป็นตัวละครที่เราต้องการเห็นที่จะให้ชนะมากที่สุด มากกว่าคำว่าความดี

5. ฝ่ายตรงข้าม

หน้าที่ของฝ่ายตรงข้ามคือ การยืดหยัดตรงข้ามฮีโร่ เนื้อเรื่องไม่สามารถจบจนกว่าจะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ หรือว่าอะไรที่แทนสิ่งนั้น ในทางที่เหมาะสม โชคร้ายที่ คาแรคเตอร์นี้สร้างมาไม่ดีซะส่วนมาก สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ คาแรคเตอร์ที่ไม่ใช่มนุษย์ อย่างคอมพิวเตอร์ หรือเอเลี่ยนที่ไม่ใช่มนุษย์ที่ไม่มีคาแรคเตอร์ของมนุษย์ ตัวละครที่ไม่ใช่มนุนย์สามารถที่จะให้เหตุผลที่ดีว่าทำไมถึงอยากเอาชนะมนุษย์หรือไม่ ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น

แต่ไม่ได้บอกว่า ฝ่ายตรงข้ามต้องเป็นมนุษย์เท่านั้น มันอาจจะเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เลียนแบบมนุษย์ก็ได้ อาจจะเป็นพระเจ้าที่มีร่างกายเป็นมนุษย์หรืออาจจะเป็นพลังด้านมืดที่นิสัยของคาแรกเตอร์ถูกสร้างมาจากจิตใจของมนุษย์ที่มีความชั่วมากๆ ตราบใดที่ฝ่ายตรงข้ามมีความชั่วแบบมนุษย์หรือความพึงพอใจแบบมนุษย์หรือมีอีโก้ของความชั่วร้ายแบบมนุษย์ ดังนั้นตัวเอกก็มีเหตุผลในการที่จะต่อต้านฝ่ายตรงข้ามไม่เช่นนั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ตัวร้ายจะต้องไปต่อต้านตัวเอกหรือฝ่ายตรงข้ามจะต้องไปต่อต้านตัวเอก

ยิ่งตัวเอกต้องการที่จะสำเร็จในการเดินทางของเค้าเท่าไหร่ฝ่ายตรงข้ามก็มีเหตุผลที่ยิ่งใหญ่ในการที่จะห้ามไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นและมันไม่ได้มีเหตุผลแค่ว่าเค้าเป็นคนเลวแต่มันอาจจะทำให้แผนของเค้าพังพินาศมันทำให้เขาไม่ได้ไปถึงจุดหมายที่ต้องการและทำให้เขารู้สึกแย่ในส่วนที่เจ็บปวดที่สุด

ตัวเอกและตัวร้ายต้องอยากที่จะเอาชนะมากที่สุดและความหวังของเขาที่จะเอาชนะและแม้แต่ความสามารถในการที่จะทำเช่นนั้นมันจะต้องจับคู่กันอย่างสมบูรณ์ถ้าฝ่ายตรงข้ามนั้นเข้มแข็งเกินไปและแพ้ดังนั้นความสำเร็จของฮีโร่มันดูไม่สมเหตุสมผล ถ้าฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอเกินไปเราก็จะไม่อินกับตัวฮีโร่

มันยากเท่าที่เรารู้สึกนักเขียนจะต้องใช้พลังงานในการสร้างฝ่ายตรงข้ามที่มีความน่าเชื่อถือและสร้างฮีโร่ที่มีความน่าเชื่อถือเช่นกันต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณจะต้องทำหนึ่งเพื่อที่จะสร้างฝ่ายตรงข้ามที่ดูน่าเชื่อถือ

-ฝ่ายตรงข้ามนั้นมีเหตุผลในการที่จะเป็นในสิ่งที่เขาเป็น คนชั่วคนเลวหรือฝ่ายไม่ดีไม่ได้เกิดมาไม่ดีอย่างนั้น แต่เขาจะต้องมีเหตุผลที่ดีว่าทำไมเค้าถึงกลายเป็นคนแบบนี้

-สิ่งที่ฮีโร่ต้องการเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการและเขาจะต้องขวางทางของฝ่ายตรงข้ามเท่าที่ฝ่ายตรงข้ามขวางทางฮีโร่

-ฝ่ายตรงข้ามนั้นมีจุดที่เป็นมนุษย์หรือว่าเป็นจุดอ่อนที่มีความดีอยู่ในนั้นในบางหนทางเขาไม่สามารถที่จะเป็นคนร้ายโดยสมบูรณ์และยังคงมีความเชื่อถือได้

-ฝ่ายตรงข้ามจะต้องมีการเติบโตเช่นเดียวกับฮีโร่ โดยการผ่านอุปสรรคต่างๆฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถที่จะเข้มแข็งโดยไม่มีเหตุผลที่ดีได้

-ในบางครั้งฝ่ายตรงข้ามมันเป็นแค่แนวความคิดหรือไอเดียมากกว่าการที่จะเป็นตัวละครที่เป็นคนจริงๆแต่ว่ามันเกิดขึ้นมาเพื่อขวางทางฮีโร่โดยเฉพาะ

6. จุดสูงสุด

ในการที่จะทำให้เนื้อเรื่องเป็นที่น่าพึงพอใจกับผู้อ่านทุกสิ่งและทุกคนจะต้องมีการเปลี่ยนไปใจคนหนึ่งไปยังอีกขั้วหนึ่ง ถ้าหากตัวละครมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเองเค้าจะกลายเป็นคนดีคนที่ไม่เอาแต่ใจตัวเองตอนจบของเนื้อเรื่อง

ไม่มีอะไรที่สามารถบ่งบอกเนื้อเรื่องได้ชัดเจน เท่ากับการเปลี่ยนแปลง ไม่มีองค์ประกอบใดใดที่ทำให้เป็นเหมือนเดิมตั้งแต่เนื้อเรื่องนั้นได้รับการพัฒนา อากาศไม่เย็นลงก็มีฝนหรือมืดขึ้น

เสียงไม่ดังขึ้นก็สงบขึ้น. หิมะตกหนักขึ้น แผนของฝ่ายตรงข้ามนั้นเร็วขึ้น ตัวเอกจะต้องพบกับความท้าทายที่หนักหนาขึ้น

การเปลี่ยนแปลงนี้ไปจากจุดหนึ่งที่สุดสุดไปอีกขั้วหนึ่งมักจะเรียกว่าจุดสูงสุดของเนื้อเรื่องมันเป็นรูปร่างของลายเส้นที่ต่อเนื่องที่วสดจากขั้วโลกเหนือไปยังขั้วโลกใต้ ไม่มีอะไรที่ยังคงเดิมและเหมือนเดิมตลอดไป

7. ความขัดแย้ง

เนื้อเรื่องไม่น่าพึงพอใจเมื่อใครบางคนสามารถพูดในสิ่งที่อยู่ในจิตใจของเขาโดยไม่มีเหตุผลอะไรเลย แต่ในระหว่างที่ถูกเถียงกันหรือว่าต่อสู้กันผู้คนจะพูดในสิ่งที่เค้าอยากจะพูดไม่ว่าจะเป็นการโกหก,ความจริงหรือว่าสิ่งอื่นอื่นที่เขาคิดที่คิดไม่เหมือนกับคนอื่นหรือจดจำเหมือนกับคนอื่นสิ่งที่คุณต้องทำก็คือทำให้คาแรกเตอร์พูดในสิ่งที่สำคัญอย่างแรกก็คือต้องทำให้แน่ใจว่าเค้าโกรธหรือว่ารู้สึกผิดหวังในบางจุด นั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมคาแรคเตอร์ถึงพูดสิ่งต่างๆออกมา

โดยรวมแล้วคนจะเข้ากันไม่ได้ในเนื้อเรื่องความขัดแย้งและความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเมื่อเราไม่รู้เลยว่าคนเหล่านี้จะแสดงต่อกันยังไง

ใช้ความขัดแย้งในการที่จะทำให้คาแรกเตอร์มีเหตุผลที่ดีในการพูดอะไรบางอย่างที่น่าสนใจและสร้างให้เกิดโอกาสที่จะทำให้คาแรคเตอร์ได้เปลี่ยนผ่านจากความคาดหวังของพวกเรา ถ้าคุณต้องการที่จะทำให้มีเซ้นส์ของความเป็นจริงดังนั้นให้คาแรกเตอร์ของคุณมีโอกาสในการที่จะพิสูจน์ตัวเองในสถานการณ์ที่ยากค่ะ

https://ift.tt/2tRbIjl

The post 7 องค์ประกอบ ของการเล่าเรื่องที่ดี appeared first on ILLUSTCOURSE-คอร์สเรียนวาดรูป,วาดภาพประกอบ,เรียนวาดการ์ตูน,เรียนสีน้ำและรวบรวมความรู้สำหรับผู้สนใจในการวาดภาพประกอบ,digital painting,character design.



from WordPress https://ift.tt/2MpBHfO
via IFTTT

วันอาทิตย์, สิงหาคม 12, 2561

boogieboard jot 8.5 รีวิว กระดานชนวนอิเลคโทรนิคส์ วาดรูปเล่นได้

มันคือกระดานชนวนอิเลคโทรนิคส์ค่ะ

โพสต์นี้เป็นการรีวิวเอง (จริงๆส่วนมากก็รีวิวเอง ไม่ค่อยมีสปอนเซอร์)

จริงๆดู boogie board อีกรุ่นไว้ แต่ไม่กล้าซื้อ ไม่รู้ดีไหม ก็เลยลองสอยรุ่นเล็กดูก่อน ถ้าไม่ติดเรื่องยี่ห้อ ในลาซาด้ามีของจีนขาย เซฟไม่ได้นะ ต้องกดลบอย่างเดียว

boogie board หน้าตาเป็นแบบนี้ ด้านหลังมีแม่เหล็ก เอาไว้ติดตู้เย็นได้ค่ะ ขนาดบางๆ พกแทนสมุดเสก็ตซ์ได้ มีแอพสำหรับแสกนภาพจากกระดานชนวนนี่เข้ามือถือ สะดวกโยธิน เสียดาย ลบเฉพาะจุดไม่ได้ กดลบทีเดียวหาย อีกทั้งขนาดเล็กไปหน่อย พร้อมทั้งไม่ทนแรงกดมือ มือเผลอไปโดนนิดก็ขึ้นรอยด่างเวลาเขียนแล้ว ปกติแล้วฝรั่งเขาซื้อไปให้ลูกเล่นเพราะว่าไม่ต้องกลัวว่าลูกจะทำบ้านเละเทะด้วยสีและอื่นๆกับเอาไว้ให้ลูกเล่นเวลาต้องการให้ห่างจากมือถือ และแทบเลท เวลาเขียนมันจะเป็นสีสะท้อนแสง แต่ไม่ยักจะ glow in the dark นะ 

โดยรวมการเขียนค่อนข้างมันส์ใช้ได้ ให้ความรู้สึกเหมือนเขียนปากกาเจลบนกระดาษดำ

ภาพที่ได้จากการใช้แอพพลิเคชันแสกนแล้ว

หน้าตาแอพ

อันนี้น้องมาแจมวาด

งานที่ได้ออกมาจากไลน์การผลิต เอ๊ย วาดเล่น นางเอกจากหนังที่ดูเรื่องล่าสุด

หน้าตากล่องเป็นแบบนี้ รีวิวสั้นๆนะ เอาไว้วาดรูปเล่น เย็นๆใจ ในราคา 1,950 บาท

ก็ดีนะ ชิวดี ไม่ต้องใช้กระดาษ สบายๆ ไม่เปลืองแบต เสียดาย เปลี่ยนแบตยากไปนิดต้องเล่นไขควงงัดกันเลยทีเดียว กับค่อนข้างเสียดายรูปเวลากดลบ ดีหน่อยที่แสกนเก็บได้ แต่ไม่รู้ว่า แบบ sync กับแบบแสกน คุณภาพเส้นต่างกันมากไหม อยากรู้จัง

The post boogieboard jot 8.5 รีวิว กระดานชนวนอิเลคโทรนิคส์ วาดรูปเล่นได้ appeared first on ILLUSTCOURSE-คอร์สเรียนวาดรูป,วาดภาพประกอบ,เรียนวาดการ์ตูน,เรียนสีน้ำและรวบรวมความรู้สำหรับผู้สนใจในการวาดภาพประกอบ,digital painting,character design.



from WordPress https://ift.tt/2KGwrPr
via IFTTT